วันนี้ (5 มิถุนายน) เวลา 09.00 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จออกตำหนักอรุณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ประทานพระวโรกาสให้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เข้าเฝ้าถวายสักการะ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ พร้อมกันนี้ ได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เขตพระนคร
ชัชชาติกล่าวว่า นับเป็นพระกรุณาธิคุณล้นพ้น ที่ได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงสละเวลาให้เข้าเฝ้าและรับพระโอวาทเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติหน้าที่ โดยได้ถวายเครื่องสักการะ และกราบถวายรายงานการดำเนินงานตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งหน้าที่
จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เข้าเยี่ยมคำนับ พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช อัครราชแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ณ อาคารสำนักพระสังฆราช สำนักมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ โดยพระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ได้แสดงความยินดีกับท่านผู้ว่าฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมแสดงความห่วงใยในภาระหน้าที่อันมากมายท่ามกลางความคาดหวังของประชาชน ยังได้เล่าเรื่องราวของคาทอลิกในประเทศไทยและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เพื่อบอกถึงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของการเผยแพร่ศาสนา และความพร้อมจะเป็นหนึ่งเดียว ความยินดีในการร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ กับงานต่างๆ เพื่อจะเป็นประโยชน์กับสังคมในส่วนรวม และหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร โอกาสนี้ พระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ได้มอบหนังสือที่ระลึกต่างๆ และหนังสือคำสอนคาทอลิกในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคม พร้อมนำเยี่ยมชมอาสนวิหารอัสสัมชัญ
“หากทางศาสนาอยากให้ทาง กทม. รับใช้อะไรก็ยินดี หนึ่งในนโยบายคือพยายามให้ชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งหลายๆ ชุมชนคาทอลิกก็มีความเข้มแข็ง มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองอย่างน่าชื่นชมอยู่แล้ว” ชัชชาติกล่าว
ในช่วงบ่าย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคำนับ อรุณ บุญชม ประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี ณ สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เขตหนองจอก โอกาสนี้ อาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้มีสารแสดงความยินดีกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ความว่า
“ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีและขอส่งความปรารถนาดีมายังท่านในโอกาสที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานครลงคะแนนเลือกท่านให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ผ่านนโยบายและวิสัยทัศน์ในการยกระดับเมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรไทยให้มีความเจริญทัดเทียมเมืองหลวงในอารยประเทศ และให้ ‘กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน’ ตาม ‘นโยบาย 9 มิติ’ หรือ ‘กรุงเทพฯ 9 ดี’
“ข้าพเจ้าขอเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของท่าน และขออำนวยพรจากเอกองค์อัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า โปรดบันดาลประทานความสำเร็จแด่ท่าน ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ชาวกรุงเทพมหานคร ให้ลุล่วงตามนโยบายและแผนงานที่วางไว้ทุกประการ ขอให้ท่านและครอบครัว ตลอดจนผู้ร่วมงานของท่านทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง ในการประกอบภารกิจสนองตอบความคาดหวังของพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานครให้ลุล่วงทุกประการเทอญ”