วันนี้ (15 กันยายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียแชร์คลิปวิดีโอที่ทหารเรือลงไปภายในท่อระบายน้ำ และพบกับกระสอบทรายจำนวนมากในพื้นที่เขตลาดกระบังว่า หลังจากที่เห็นภาพดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00 น. ได้โทรศัพท์สอบถามผู้อำนวยการเขตลาดกระบังโดยตรงทันที ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่าเป็นกระสอบทรายที่นำไปอุด (ปิดกั้น) ไม่ให้น้ำจากถนนไหลลงท่อ และดันเข้าไปในคลองที่ระดับน้ำมากจนล้นอยู่แล้ว
คาดว่าภาพที่เห็นเป็นเพราะหน่วยงานลืมนำกระสอบทรายออกจากท่อ หลังจากที่น้ำในคลองลดระดับ เมื่อมีฝนตกลงมา จุดนี้เป็นจุดเดียวที่น้ำท่วม ในจุดอื่นไม่มีน้ำท่วม ประชาชนจึงเกิดข้อสงสัยและขอให้ทหารเรือลงท่อไปช่วยดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า หลังจากสอบถามทางผู้อำนวยการเขตแล้ว ส่วนตัวยอมรับว่ายังไม่เชื่อว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้อง จึงติดต่อหา อรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ว่าเป็นวิธีการที่ใช้ได้จริงหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าสามารถใช้ได้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีใครวางยา กทม. แน่นอน เพราะถ้ามีการวางยาจริง คนที่รับผิดชอบในพื้นที่ก็จะต้องโดนไปด้วย
การลงพื้นที่หน้างานด้วยตัวเองที่ผ่านมาจะทำให้ได้รู้ปัญหาและมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ในส่วนปัญหาเรื่องถุงทรายที่อยู่ในท่ออาจจะมีในจุดอื่นอีก จึงขอให้ช่วยกันสังเกตว่ามีพื้นที่ไหนที่มีความผิดปกติและอาจจะใช้วิธีนี้อยู่บ้าง ให้รีบดำเนินการแก้ไข
“ส่วนนี้อาจจะเป็นจุดอ่อนเรื่องการสื่อสาร เพราะฉะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกันให้มากขึ้น แต่เข้าใจได้ว่าขณะนี้หน้างานเองก็น่าจะวุ่นวายกับการคุมสถานการณ์” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า ในส่วนแผนการระบายน้ำในพื้นที่เขตลาดกระบัง หลังจากเมื่อวานนี้ (14 กันยายน) ได้พบกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้หารือกันว่าในแผนระยะยาวจะต้องทำทางด่วนน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วกว่าเดิม
เพราะปัญหาของพื้นที่เขตลาดกระบังคือมีส่วนงานก่อสร้างจำนวนมากที่ไปกีดขวางทางน้ำของคลอง ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า อีกทั้งระยะทางของคลองมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อระบายเป็นระยะทางที่ไกล การทำทางด่วนน้ำจึงคิดว่าตอบโจทย์ในปัญหาเรื่องนี้
“ต้องขอบคุณ พล.อ. ประวิตรที่ติดตามลงพื้นที่ด้วยตัวเอง และทำให้การประสานงานกับกรมชลประทานเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น เพราะด้วยอำนาจหน้าที่การบริหารงาน กทม. อาจจะไม่มีอำนาจมากพอในการสั่งการให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำได้มากเท่าที่ควร แต่ พล.อ. ประวิตรเป็นประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สามารถสั่งการได้โดยตรง” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติยังได้กล่าวย้ำว่า การบริหารจัดการเรื่องสถานการณ์น้ำใน กทม. ที่ผ่านมาได้รับการร่วมมือและสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างดีมาโดยเสมอ ตั้งแต่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้ให้การช่วยเหลือสั่งการแก้ไขต่างๆ จนมาถึง พล.อ. ประวิตรที่มีส่วนสำคัญ
สำหรับกรณีการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์น้ำของ กทม. ชัชชาติยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทำงานข้ามหัวใคร ทุกอย่างมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน มีระเบียบแบบแผนในการสั่งการ อย่างเช่น การต้องเปิดประตูระบายน้ำ 2 เซนติเมตร ก็จะต้องมีผู้ลงคำสั่งและยืนยันในคำสั่งนั้น ฉะนั้นทุกขั้นตอนจึงมีหลักฐานและผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือคำติ ตนเองไม่ได้กังวลในส่วนนั้น แต่กังวลว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำที่มีหลายส่วนส่งมาถึง และวันเสาร์นี้ (17 กันยายน) จะนัดพูดคุยกับ เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแบ่งเบาความกังวลเรื่องสถานการณ์น้ำร่วมกัน
