×

‘ชัชชาติ’ นำแถลงผลงาน 2 ปี ใช้หนี้ BTS 2 หมื่นล้าน เอาผิดข้าราชการทุจริต ให้คะแนนตัวเอง 5 เต็ม 10

โดย THE STANDARD TEAM
28.05.2024
  • LOADING...

วันนี้ (28 พฤษภาคม) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครแถลงผลงาน 2 ปี ในหัวข้อ ‘2 ปี ทำงาน เปลี่ยน ปรับ ยกระดับกรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่’

 

ชัชชาติกล่าวว่า วันนี้เป็นการมารายงานผลงาน 2  ปีให้กับประชาชน ถือเป็น 2 ปีของความท้าทาย และสิ่งที่ตกผลึกคือกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าเที่ยวแต่ประสิทธิภาพยังไม่สูงมาก ทั้งความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างมีคุณภาพ และที่ผ่านมาเชื่อว่าทางผู้บริหารได้พยายามเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพของเมืองเพื่อให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น ซึ่งได้ทำในหลายมิติ หลายนโยบายกว่า 200โครงการ

 

2 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานที่ชัดเจน ซึ่ง 6 ด้านที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างถาวรคือ

 

  1. การเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เจ้าหน้าที่ กทม. ‘หันหลังให้ผู้ว่าฯ หันหน้าให้ประชาชน’ โดยใช้ Traffy Fondue ในการแก้ไขปัญหา จนถึงปัจจุบันมีเรื่องที่ประชาชนแจ้งมาแล้วกว่า 590,000 เรื่อง และแก้ไปแล้วประมาณ 500,000 เรื่อง โดยที่ผู้ว่าฯ กทม. ไม่ต้องสั่งการ

 

  1. การกระจายอำนาจสู่ประชาชน โดยเอางบประมาณลงไปในชุมชน ลงไปในเขต ให้มากขึ้น

 

  1. เรื่องความโปร่งใส ยืนยันว่ารับเรื่องทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ หากเมืองไม่โปร่งใสไม่มีทางมีประสิทธิภาพได้ และจะเสียทรัพยากรไป เพราะจะทำให้คนมีเส้นถึงจะมีสิทธิ์ ดังนั้นที่ผ่านมามีการสั่งเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตออกไปแล้วประมาณ 30 คน

 

  1. การใช้เทคโนโลยีเพื่อมาปรับปรุงการให้บริการ

 

  1. การมีส่วนร่วมกับประชาชนในการทำกิจกรรมต่างๆ ใน กทม. มีคนรุ่นใหม่มามีส่วนร่วม เพราะเชื่อว่าเมืองนี้จะเปลี่ยนได้ถ้าทุกคนร่วมกัน

 

  1. กล้าทำปัญหาที่ท้าทาย โดยเฉพาะปัญหาสำคัญ คือเรื่องหนี้รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ที่ต่อเนื่องมานาน กทม. จึงได้มีการจ่ายหนี้ชุดแรกไปแล้ว ในงานระบบส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 23,000 ล้านบาท รวมถึงโอนกรรมสิทธิ์โครงการส่วนต่อขยายมาเป็นของ กทม.

 

ชัชชาติกล่าวต่อว่า สิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือการลดการผูกขาด โดยจะเสนอรัฐบาลยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 นำระบบรถไฟฟ้ากลับสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ร่วมทุนตามกฎหมายให้โปร่งใส และมีประโยชน์มากที่สุดกับประชาชน

 

รวมถึงความท้าทายเรื่องระบบการศึกษา การพัฒนาระบบสาธารณสุข เพราะเป็นตัวช่วยเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ

 

ทั้งนี้ เชื่อว่านโยบายและโครงการต่างๆ มากมาย ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของเมืองจะเป็นผลในระยะยาว และอีก 2 ปี แม้ตนเองไม่อยู่แล้ว แต่โครงสร้างนี้จะยังอยู่ น่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลง และถ้ามีประโยชน์จะขยายผลไปที่จังหวัดอื่นและระดับประเทศไทย

 

“ผมเชื่อว่าสิ่งที่ได้ทำมานั้นหากผ่าน 4 ปีไปแล้ว ผมไม่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยังอยู่คือโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว คือให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเสียงของประชาชนมีพลังมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ” ชัชชาติกล่าว

 

ชัชชาติกล่าวว่า สิ่งที่ยังต้องปรับปรุง เนื่องจากปัจจุบันยังมีพฤติกรรมผักชีโรยหน้าอยู่ ซึ่งยังไม่ได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงการทุจริตคอร์รัปชันที่ยังมีกลุ่มผลประโยชน์ที่มีอิทธิพล แต่เราก็ไม่กลัวและเดินหน้าต่อ รวมถึงฝาท่อที่ กทม. ต้องไปควบคุมคุณภาพ รถที่จอดริมถนน รวมถึงหาบเร่ที่ลงอยู่บนถนน ซึ่งเมื่ออยู่บนถนนจะเป็นอำนาจของตำรวจ ดังนั้นจึงต้องเป็นการบูรณาการ

 

ดังนั้นจึงต้องทำ 3 ส่วน คือปรับปรุงพนักงานของ กทม. ให้จริงจังขึ้น บูรณาการหน่วยงานให้เข้มข้นและให้ดีขึ้น และแก้ระเบียบที่ล้าหลัง

 

ชัชชาติยืนยันว่า กทม. ก็จะทำงานเต็มที่ เพื่อให้คนเหนื่อยน้อยลงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น เพื่อให้คนอยู่ในครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

 

หากให้คะแนนเต็ม 10 ชัชชาติกล่าวว่าขอให้คะแนนที่ 5 คะแนน เพราะจริงๆ เป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องให้คะแนน และ กทม. ยังต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไป โดยน้อมรับคำติทุกข้อมาปรับปรุงให้ดีขึ้น

 

ชัชชาติกล่าวต่อว่า หลังจากนี้คนจะใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น เพราะต้นทุนชีวิตคือคนจะใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องไปเสียเวลาการเดินทาง ไม่ต้องเอาคุณภาพชีวิตไปเสี่ยงกับมลพิษต่างๆ เชื่อว่า กทม. ไม่ได้มีนโยบายที่เป็นแชมเปียนเรื่องเดียว ต้องมีนโยบายเป็นร้อย เพราะไปผูกพันกับชีวิตคนหลายเรื่อง ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ในหลากหลายมิติ

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X