นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ลงนามรับรองให้แก่ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปราจีนบุรี หรือหมอแสง เป็นหมอพื้นบ้านแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เร่งรัดตามเส้นตายของหมอแสง
โดย นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่า การออกใบรับรองเป็นหมอพื้นบ้าน เป็นการเชิดชูเกียรติและยกระดับหมอพื้นบ้านที่มีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่น แต่ต้องดำเนินการมาไม่น้อยกว่า 10 ปีด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยหรือการแพทย์พื้นบ้าน
แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า หมอพื้นบ้านและแพทย์พื้นบ้านแตกต่างกัน เพราะหมอพื้นบ้านไม่สามารถทำเพื่อการค้า โดยต้องไปติดตามต่อว่า ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขหลักต้องช่วยเหลือหรือเยียวยาผู้ป่วยตามธรรมจรรยา และต้องไม่ทำเชิงพาณิชย์ ซึ่งหากผิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขก็ถอดถอนใบรับรองได้
เมื่อถามว่านายแสงชัยได้รับรองเป็นหมอพื้นบ้านที่เชี่ยวชาญด้านใด นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า การออกใบรับรองหมอพื้นบ้านนั้น ไม่ได้บอกว่ามีความเชี่ยวชาญสาขาไหน ไม่เหมือนแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลปะ ซึ่งหากหมอพื้นบ้านต้องการความเฉพาะด้าน หรือต้องการใบอนุญาตเป็นแพทย์แผนไทยก็ต้องเป็นไปตามหลักสูตร มีการศึกษาตามสถาบันการศึกษา มีใบรับรองออกมา หรือในกรณีหมอพื้นบ้านที่อายุมากแล้ว อาจไม่สามารถไปสอบใบอนุญาตได้ ก็จะมีอีกวิธีในการประเมินตามประสบการณ์ ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ต่างๆ อีก โดยที่ผ่านมาก็มีผู้ที่ผ่านการประเมินไปประมาณ 100 กว่าคน แต่ทั้งหมดก็จะต้องมีระบบในการยอมรับ ซึ่งมีหลักเกณฑ์อยู่ดี
ด้าน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่หมอแสงจะหยุดแจกแคปซูลสมุนไพรหากไม่ผ่านการรับรองเป็นหมอพื้นบ้านว่า ยืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้าน ส่วนเรื่องสมุนไพรที่แจกต้องนำมาวิจัยต่อว่ามีสารอะไรและออกฤทธิ์อย่างไร ขอให้ประชาชนมีวิจารณญาณ ควรรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันก่อน ส่วนแพทย์ทางเลือกควรใช้เป็นการรักษาร่วมเท่านั้น
โดยก่อนหน้านี้หมอแสงเคยตัดพ้อกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรณีไม่ออกใบรับรองหมอพื้นบ้านให้ และยื่นคำขาดว่าหากยังไม่ออกใบรับรองภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้จะไม่ผลิตและเลิกแจกแคปซูลยาสมุนไพรให้กับประชาชน
อ้างอิง: