ทริปยุโรปครั้งต่อไปของคุณจะพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะเราจะพาไปทำความรู้จัก 5 ห้างลักชัวรีอายุกว่า 100 ปีทั่วยุโรป ที่ล้วนแล้วแต่เป็นห้างที่ได้รับการขนานนามว่าดีที่สุดในประเทศนั้นๆ และถูกจัดเข้าลิสต์สถานที่ห้ามพลาดสำหรับนักช้อปตัวจริง และนี่คือ 5 ห้างลักชัวรีที่นักช้อปชาวไทยต้องรู้จัก และต้องจดลงลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด
ห้างสรรพสินค้าเซลฟริดเจส (Selfridges)
ใครที่เคยไปสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับภายในห้างสรรพสินค้าเซลฟริดเจส น่าจะเข้าใจว่าทำไมห้างแห่งนี้ถึงคว้ารางวัลห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดในโลก (Best Department Store in the World) จากงาน Global Department Store Summit 4 ปีซ้อน
จะว่าไปนับตั้งแต่ปี 1909 ที่ห้างสรรพสินค้าเซลฟริดเจสเปิดประตูห้างให้ชาวเมืองอังกฤษได้เข้าไปเยือน ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี เซลฟริดเจสยังคงพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กับลูกค้า รวมถึงการเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ลักชัวรีชั้นนำระดับโลกมาโดยตลอด ถือเป็นหัวหอกในการปฏิวัติวงการห้างค้าปลีกตั้งแต่ยุคเริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน
ห้างหรูใจกลางลอนดอนแห่งนี้ รวบรวมสินค้าแบรนด์ดังในหลากหลายหมวดหมู่กว่า 500 แบรนด์ เช่น Alexander McQueen, Louis Vuitton, Tiffany & Co., Gucci, Bvlgari ฯลฯ รวมถึงยังสนับสนุนแบรนด์สินค้ารักษ์โลก และเหล่าผู้ผลิตชาวอังกฤษ และภายในห้างเซลฟริดเจสยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมความสนุกที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะอังกฤษ เช่น โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ลานสเกตบอร์ด ฯลฯ ไม่แปลกที่นักช้อปจากทั่วโลกจะจัดให้ที่นี่อยู่ในลิสต์สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนลอนดอน
ห้ามพลาด!: เพลิดเพลินไปกับการตกแต่งแบบ 2D ณ จุดดิสเพลย์ทั้งด้านในและด้านนอกห้าง ที่ได้ศิลปินชื่อดังมาสร้างสีสันตลอดทั้งปี พิเศษสุดสำหรับสมาชิกเดอะวัน สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน Selfridges.com ได้แล้วจากทุกที่ทั่วโลก
ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต (Rinascente)
ห้างสรรพสินค้าที่มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี ก่อตั้งโดยพี่น้องตระกูล Bocconi ปัจจุบันรีนาเชนเตมีสาขาทั้งหมด 9 สาขา ในเมืองสำคัญของอิตาลี ได้แก่ Cagliari, Catania, Florence, Milan, Monza, Palermo, Rome Fiume, Rome Tritone และ Turin
แต่ละสาขามีสไตล์ที่โดดเด่นแบบสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาเลียนคลาสสิก ซึ่งสะท้อนคุณค่าทางประวัติศาสตร์ผ่านความงดงามของสถาปัตยกรรม การตกแต่งที่มีมนตร์เสน่ห์ เอกลักษณ์ของแต่ละร้านค้าถูกออกแบบมาให้ถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์ โดยที่ยังสอดประสานไปกับ DNA ของรีนาเชนเตโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ภายในเต็มไปด้วยแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เหนือระดับ อย่างแบรนด์ล่าสุด เช่น LOEWE, Zimmermann, Vivienne Westwood, Marni X Carhartt และ BOYY ที่มาพร้อมกับบริการ Personal Shopper ที่คอยอำนวยความสะดวกในการให้บริการที่หน้าร้าน และยังมีบริการ Rinascente On Demand แชตตรงกับผู้ช่วยช้อปส่วนตัวชาวอิตาลีได้ที่ LINE: @RinascenteOnDemand ทำให้รีนาเชนเตเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในกรุงโรมที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวนับล้านคน
ห้ามพลาด!: เตรียมพบกับแคมเปญพิเศษมากมาย เช่น
– แคมเปญ Textile Wave พบสินค้ากลุ่ม Home Textile มากมายพร้อมสิทธิพิเศษสำหรับคนรักบ้าน วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม 2566
– แคมเปญ Maison Margiela Takeover เอาใจคนหลงใหลงานออกแบบสุดยูนีกกับการเทกโอเวอร์ห้างรีนาเชนเต สาขากรุงมิลาน ของแบรนด์ Maison Margiela ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2566
– แคมเปญ De Gusto Easter Edition ฉลองเทศกาลอีสเตอร์ด้วยสินค้าและดีลสุดพิเศษระหว่างวันที่ 16 มีนาคม ถึง 9 เมษายน 2566
ห้างสรรพสินค้าคาเดเว (KaDeWe)
ห้างสรรพสินค้าคาเดเว ตั้งอยู่บนถนนโทเอนซีนสตราสเซอ (Tauentzienstraße) ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ได้รับการขนานนามว่าเป็นห้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเยอรมนีและในยุโรป ด้วยประวัติอันยาวนานที่อยู่คู่กับกรุงเบอร์ลินมากว่า 100 ปี เพราะเป็นศูนย์รวมแฟชั่นลักชัวรีและสตรีทแวร์จากแบรนด์ระดับโลกและผลงานดีไซเนอร์เยอรมัน เช่น Givenchy, Balmain, JACQUEMUS, Isabel Marant, Stella McCartney, Off-White
แบรนด์บิวตี้ก็ไม่น้อยหน้า ยกทัพแบรนด์ดังมากมาย เช่น Charlotte Tilbury, Byredo สำหรับนักชิมขึ้นไปที่ชั้น 6 จะพบกับร้านอาหารและบาร์มากมายจนได้รับการขนานนามว่าเป็นฟู้ดฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีร้านอาหารชื่อดังมากมาย เช่น ร้านอาหารคลีน Daluma, ร้าน Kartoffelacker, ร้าน Beef Grill Club by Hasir, ร้าน Laggner Schwemme, ร้าน Lutter & Wegner เป็นต้น ที่สำคัญพื้นที่ชั้น 6 จะปิดช้ากว่าโซนห้าง จึงสามารถมาลิ้มรสอาหารพร้อมจิบแชมเปญท่ามกลางวิวอันงดงามของกรุงเบอร์ลินบนรูฟท็อป
ห้ามพลาด!: The Brasserie Hélène ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเปิดใหม่ที่ได้เชฟยอดฝีมือมารังสรรค์อาหารฝรั่งเศสผสมผสานความโมเดิร์น กับเมนูสุดพิเศษที่ชวนเหล่านักชิมให้ได้มาลิ้มลอง เช่น เมนู Roast Goose / Bouillabaisse ห่านย่าง หรือซุปปลารสชาติจัดจ้านอันเลื่องชื่อของทางตอนใต้ในฝรั่งเศส ที่เป็นสูตรลับสุดพิเศษให้คุณได้มาชิม
ห้างสรรพสินค้าอิลลุม (Illum)
ห้างสรรพสินค้าอายุกว่า 132 ปีแห่งนี้ เป็นหนึ่งในห้างที่ได้รับการขนานนามว่าดีที่สุดในโลก และเป็นห้างชั้นนำของประเทศเดนมาร์ก สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ แหล่งรวมความบันเทิง และแรงบันดาลใจ ภายใต้บรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ พรั่งพร้อมไปด้วยแบรนด์ดังระดับโลกและบริการที่ยอดเยี่ยม เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับทุกคนที่มาเยือน
ใครมีโอกาสไปเยือนช่วงซัมเมอร์ จะตื่นตาไปกับการแปลงโฉมใหม่ ที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นในธีม ‘Futuristic’ รวมถึงการตกแต่งสโตร์โฉมใหม่ของแบรนด์ต่างๆ เช่น RIMOWA, IRO, The Vintage Bar และ Full Concept Store จากแบรนด์ CELINE ที่จะเปิดในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้
ห้ามพลาด!: Party Campaign แคมเปญเอาใจสาวสังคมที่จะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป และ Beauty Campaign ยกทัพสินค้าบิวตี้ในราคาพิเศษตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 นอกจากนี้ยังมีบริการ Illum On Demand แชตพูดคุยกับพนักงานผ่านช่องทาง WhatsApp เบอร์ +45 28 93 63 19
ห้างสรรพสินค้าโกลบุส (Globus)
ห้างสรรพสินค้าสัญชาติสวิสอายุกว่า 125 ปี เดิมทีมีชื่อว่า ‘Bazar ohne Gleichen’ หมายถึงห้างสรรพสินค้าที่เหนือกว่าใคร ณ เวลานั้นถือเป็นห้างขนาดใหญ่แห่งแรกในเมืองซูริก ด้วยภาพลักษณ์ที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ประจำชาติอันเป็นจุดเด่นของห้างสรรพสินค้าโกลบุส
จนถึงวันนี้ โกลบุสยังคงยิ่งใหญ่และโดดเด่นกว่าห้างสรรพสินค้าไหนๆ ทั้งการคัดสรรสินค้าสุดพิเศษไม่ซ้ำใครจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ความครบครันของสินค้าในทุกหมวดหมู่ และไม่หยุดนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า อย่างต้นปี 2566 ก็ได้มีการเปิดแบรนด์ใหม่ในหลายกลุ่มสินค้า เช่น แบรนด์สำหรับบ้านและไลฟ์สไตล์ อย่าง Dyson, Assouline แบรนด์แฟชั่นอย่าง PRADA Men, ZEGNA, LOEWE แบรนด์แฟชั่นสำหรับเด็ก เช่น Palm Angels, Marcelo Burlon หรือแบรนด์ความงามอย่าง DR. BARBARA STURM และ THAMEEN LONDON
ห้ามพลาด!: โปรโมชันโกลบุส ‘Beauty Days’ ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 9 เมษายนนี้ เอาใจนักช้อปสายบิวตี้ พบข้อเสนอส่วนลดสุดพิเศษและกิจกรรมมากมายภายในห้างสรรพสินค้าโกลบุส
นอกจากประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับภายในห้างลักชัวรีทั้ง 5 ที่แนะนำไป นักช้อปชาวไทยที่เป็นสมาชิกเดอะวัน สามารถสะสมพอยต์พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ มากมายได้ตลอดทั้งปี 2566 ไม่ว่าจะเป็น
- สะสมคะแนน The 1 เมื่อช้อปปิ้งที่ห้างรีนาเชนเต (Rinascente) ทุกสาขา, ห้างคาเดเว (KaDeWe) ทุก 1 ยูโร เท่ากับ 1 คะแนน, ห้างอิลลุม (Illum) ทุก 7.5 โครนเดนมาร์ก เท่ากับ 1 คะแนน และห้างโกลบุส (Globus) สาขาซูริก เจนีวา และลูเซิร์น ทุก 1 ฟรังก์สวิส เท่ากับ 1 คะแนน
- ส่วนลด 10% สำหรับสินค้าร่วมรายการ เพียงแสดง The 1 APP
- รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ที่ร่วมรายการ (ระยะเวลาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566)
- บริการพิเศษเฉพาะสมาชิกเดอะวัน เอ็กซ์คลูซีฟ เช่น บริการผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว, บริการห่อของขวัญ, Fast Track ในการขอคืนภาษี (Tax Refund) และบริการส่งของถึงโรงแรมที่พัก
ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์เหนือระดับและสิทธิพิเศษดีๆ ที่จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวยุโรปของคุณพิเศษกว่าทริปไหนๆ อย่างแน่นอน
