×

ศึกช้อปตรุษจีน! เซ็นทรัลทุ่ม 500 ล้าน จับคู่ Easy e-Receipt กระตุ้นเศรษฐกิจต้นปี คาดเงินสะพัด 1.5 หมื่นล้าน หนุนทราฟฟิกพุ่ง 30%

10.01.2025
  • LOADING...
ศึกช้อปตรุษจีน! เซ็นทรัลทุ่ม 500 ล้าน จับคู่ Easy e-Receipt กระตุ้นเศรษฐกิจต้นปี คาดเงินสะพัด 1.5 หมื่นล้าน หนุนทราฟฟิกพุ่ง 30%

เป็นประจำทุกปีที่เริ่มต้นศักราชใหม่ที่ฝั่งค้าปลีกจะจัดแคมเปญใหญ่อย่าง ‘ตรุษจีน’ ซึ่งในปีนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลจับมือกับห้างเซ็นทรัลผ่านการใช้งบกว่า 5 ร้อยล้านบาท เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสำคัญนี้

 

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ฐานลูกค้าของ CPN เป็นกลุ่มกลาง-บน ซึ่งในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีพบว่าการใช้จ่ายกลับมาคึกคักแล้ว ดังนั้นจึงคาดว่าจะสร้างเงินสะพัดตลอดแคมเปญกว่า 1.5 หมื่นล้านบาททั่วประเทศ และเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์การค้าทั่วประเทศกว่า 25-30%

 

“เราคาดว่าแคมเปญนี้จะกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ขึ้นอยู่กับโลเคชัน” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว

 

เหตุผลนั้นเป็นเพราะนอกจากเป็นช่วงตรุษจีนซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายกันแล้ว ยังได้โครงการลดหย่อนภาษี Easy e-Receipt 2.0 ของภาครัฐเข้ามาช่วยพอดีด้วย

 

สำหรับ Easy e-Receipt 2.0 เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในปี 2568 โดยให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล) หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 – วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง และสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น

 

ตามข้อมูลของกรมสรรพากรประเมินว่า มาตรการ Easy e-Receipt 2.0 จะช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัวได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 7 หมื่นล้านบาทด้วยกัน

 

ด้าน รวิศรา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริหารกลุ่มการตลาด กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทลกล่าวว่า แคมเปญนี้ห้างเซ็นทรัลมุ่งเน้นคัดสรรสินค้าในกลุ่มความงาม แฟชั่น ของแต่งบ้าน รวมไปถึงสินค้าแม่และเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลูกค้ามีการจับจ่ายใช้สอยอย่างคึกคักในเทศกาลตรุษจีน

 

“เมื่อรวมกับ Easy e-Receipt 2.0 ภาครัฐ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มทราฟฟิกของลูกค้าได้อีก 20% และเพิ่มยอดขายได้ 10% จากแคมเปญปี 2567”

 

ทั้งนี้ ดร.ณัฐกิตติ์ ประเมินว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ยังมีแนวโน้มที่ดีจากการลงทุนของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องจับตาปัจจัยที่จะส่งผลกระทบอย่างสงครามการค้าและหนี้ครัวเรือนที่จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยจำกัด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X