วันนี้ (17 มกราคม) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ออกมาโพสต์ภาพและข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ‘Center for Medical Genomics’ ระบุว่า เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์กันแล้ว โดยข้อมูลปรับปรุงวันนี้ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ตรวจสายพันธุ์ไวรัสโคโรนา 2019 จากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 3-16 มกราคม 2565 พบสายพันธุ์โอมิครอน 97.1%, เดลตา 2.8% ส่วนตัวอย่างสุ่มตรวจจากเรือนจำพบเป็นเดลตา 100%
“อันหมายถึงใน กทม. หากไม่นับในเรือนจำ โอมิครอนน่าจะเข้ามาแทนที่เดลตา เกือบหมดแล้ว ‘Twindemic’ หรือการติดเชื้อสองสายพันธุ์ระหว่างโอมิครอนและเดลตาไปพร้อมกันในระยะเวลาสั้นๆ ได้จบลงแล้ว ไม่นานโอมิครอนคงจะกระจายไปทั่วประเทศ ไม่ช้าคงเป็นตามที่ ดร.แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนสำคัญในคณะทำงานเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิดของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เตือนว่า “ในที่สุดแทบทุกคนจะติดเชื้อไวรัสโอมิครอน” จากนั้นทั้งภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและจากการติดเชื้อตามธรรมชาติจะพุ่งขึ้นสูง ลดความรุนแรงของโรคโควิด และลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว เห็นปรากฏการณ์นี้ได้อย่างชัดเจนจากข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากโอมิครอน”
“ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแอฟริกาใต้ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตไม่มาก มีประชากรติดเชื้อไวรัสจากธรรมชาติเป็นจำนวนมาก
“ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตไม่มาก อังกฤษใช้วัคซีนไวรัสเป็นพาหะ และเข็มกระตุ้นเป็นวัคซีนสารพันธุกรรม (mRNA)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าใกล้ถึงจุดสูงสุดใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ในขณะที่ผู้เสียชีวิตมีไม่มาก อเมริกาใช้วัคซีน mRNA เป็นวัคซีนนำสองเข็มแรก และใช้เป็นเข็มกระตุ้นด้วย
“ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย รวมทั้งอิหร่าน ที่มีการติดเชื้อจากธรรมชาติในอัตราสูงนำมาก่อน ก่อนจะมารับวัคซีนเชื้อตาย และสลับมารับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ และ/หรือวัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้น พบว่าได้ผลดีมาก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากโอมิครอนและผู้เสียชีวิตต่ำ
“ส่วนประเทศไทย มีการติดเชื้อจากธรรมชาติไม่มาก และได้รับวัคซีนเชื้อตาย สลับมารับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ และ/หรือวัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้น ได้ผลดีเช่นกัน แม้จะเห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจากโอมิครอน แต่ผู้เสียชีวิตลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
“และหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไวรัสโคโรนา 2019 คงจะจบเกม (Endgame) กลายเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) เหมือนไข้หวัดใหญ่ซึ่งมาตามฤดูกาล โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณร้อยละ 0.1”
อ้างอิง: