กำลังเป็นเครื่องดื่มในกระแส สำหรับ ‘น้ำเซเลอรี’ หรือ ‘น้ำขึ้นฉ่ายฝรั่ง’ ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่สาวๆ ที่สนใจในการดูแลสุขภาพ
ล่าสุด แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกระแสความนิยมของดื่มน้ำเซเลอรี หรือน้ำขึ้นฉ่ายฝรั่ง ที่กำลังได้รับความนิยมจากคนรักสุขภาพ เนื่องจากเครื่องดื่มดังกล่าวให้พลังงานต่ำ แต่มีสารอาหารสูง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งในผักเซเลอรียังมีปริมาณโพแทสเซียมสูง มีฤทธิ์อ่อนในการขับปัสสาวะออกจากร่างกาย ช่วยลดอาการบวมน้ำ และช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะหัวใจ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวขาดเลือด ช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่สมดุล โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
แต่ถึงอย่างนั้น อธิบดีกรมอนามัยได้เตือนถึงผลเสียที่อาจเกิดกับบุคคลที่กำลังป่วยเป็นโรคไตเกี่ยวกับน้ำเซเลอรีว่า ควรดื่มอย่างระมัดระวัง เพราะถ้าหากกินในปริมาณมากอาจทำให้ได้รับปริมาณโพแทสเซียมจากเซเลอรีที่มากเกินไป
“สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มน้ำเซเลอรี สามารถดื่มได้ แต่ไม่ควรดื่มบ่อยในปริมาณที่มากเกินไป ควรปั่นผสมกับผักและผลไม้อื่น เพื่อให้ได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่เหมาะสม เพราะถึงแม้ว่าผักชนิดนี้หากกินแบบสดๆ จะทำให้ได้รับวิตามินซีสูง ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิต้านทานแบคทีเรียและไวรัสที่จะทำให้เกิดโรคหวัด โรคภูมิแพ้ โรคเลือดออกตามไรฟัน แต่การกินอาหารซ้ำๆ จะทำให้เราได้รับประโยชน์จากอาหารเพียงชนิดเดียว
“ดังนั้น น้ำเซเลอรีจึงควรสลับหมุนเวียนเมนูกับอาหารชนิดอื่นด้วย นอกจากการนำมาปั่นแล้ว สามารถนำมาปรุงประกอบอาหารต่างๆ ได้ด้วย เช่น หั่นเป็นแว่นใส่สลัดหรือต้มเป็นซุป ก็จะทำให้กินได้ง่ายขึ้น ซึ่งก่อนนำเซเลอรีมาปั่นหรือปรุงประกอบอาหารควรล้างด้วยน้ำไหล โดยแช่ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นเปิดน้ำไหลผ่านและคลี่ใบผักถูไปมานาน 2 นาที ให้สะอาด สามารถลดสารเคมีตกค้างในผักได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: