Photo: CHRIS J RATCLIFFE, AFP
เหตุการณ์ไฟไหม้อาคาร Grenfell Tower 24 ชั้น ในกรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึงความบกพร่องของการจัดการที่อยู่อาศัยในประเทศอย่างอังกฤษ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนที่มีผู้อยู่อาศัยราว 8.6 ล้านคน และเป็นเมืองที่เป็นศูนย์รวมของคนทุกเชื้อชาติที่ต่างเข้ามาหาโอกาสทั้งการศึกษาและการงานในเมืองนี้
เพลิงไหม้ลุกลาม Grenfell Tower ไปทั้งอาคารภายในเวลาเพียง 15 นาที และเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาราว 24 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 58 คน และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูงขึ้นอีก
อุบัติเหตุครั้งนี้ยังอยู่ในภาวะฝุ่นตลบที่ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุหรือต้นตอของเพลิงไหม้ได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยที่เร่งให้ไฟลุกลามอย่างน่าตกใจล้วนสะท้อนถึงการละเลยของภาครัฐอังกฤษ และความโกรธของประชาชนได้ลุกลามไปถึงเรื่องความอัดอั้นตันใจอื่นๆ ของชาวลอนดอนที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากภาครัฐ
Photo: Tolga AKMEN, AFP
การคาดการณ์สาเหตุของเพลิงไหม้และปัจจัยที่ทำให้ไฟยิ่งลุกลาม
เพลิงไหม้เริ่มต้นจากชั้นสองของอาคารและลุกลามไปทั้ง 24 ชั้นของอาคาร หน่วยดับเพลิงใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 24 ชั่วโมงถึงจะควบคุมเพลิงไว้ได้ นอกจากรถดับเพลิงแล้วยังต้องใช้การช่วยดับเพลิงจากทางอากาศด้วย
ล่าสุดยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างชัดเจน แต่เริ่มมีการสันนิษฐานถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ว่า น่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่อาคารหลังนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมในปีที่ผ่านมา อย่างการสะสมของขยะภายในอาคารที่อาจเป็นเชื้อเพลิงได้
นอกจากนี้ยังมีการสันนิษฐานจากคนที่อาศัยอยู่ในอาคารอย่างเช่น เกิดจากตู้เย็นของผู้อยู่อาศัยรายหนึ่งที่ชั้นสองของอาคาร โดย ซามิรา แลมรานี (Samira Lamrani) ผู้อยู่อาศัยเปิดเผยว่า เขาได้ยินชายเจ้าของห้องรายหนึ่งพูดว่าทันทีที่เกิดเหตุเขาได้ติดต่อหน่วยดับเพลิงทันที
แต่ปัจจัยที่ทำให้เพลิงไหม้ครั้งนี้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วในเพียง 15 นาทีนั้น มีหลายปัจจัยด้วยกัน อย่างแรกคือ เอลวิน เอ็ดวอร์ส (Elvin Edwars) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่อธิบายกับ BBC ว่าการลุกลามอย่างรวดเร็วว่าเป็น ‘ปรากฏการณ์ปล่องไฟ’ (Chimney Effect) คือในช่วงที่บูรณะซ่อมแซมตึก Grenfell Tower ได้ติดตั้งผนังอาคารกันน้ำที่ไม่ได้ใช้วัสดุหุ้มกันไฟ จึงทำให้เกิดเป็นรูที่เปิดให้ลมเข้ามาและทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วคล้ายกับเป็นปล่องไฟ
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้จึงแตกต่างจากเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์ทั่วไป เพราะไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในอาคาร แต่ยังลุกลามไปข้างนอกด้วย
นอกจากนี้อีกปัจจัยที่ทำให้คนจำนวนมากติดอยู่ภายในอาคารคือ ก่อนหน้านี้ในช่วงบูรณะซ่อมแซมอาคาร กลุ่ม Grenfell Action Group ได้ออกมาเรียกร้องและเตือนว่าอาคารมีทางออกและทางเข้าเพียงแค่ทางเดียว ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น อีกทั้งอาคารก็ไม่ได้ติดตั้งระบบสปริงเกอร์ดับเพลิง
ล่าสุดตำรวจอังกฤษระบุว่า ความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ โดยต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จึงจะสามารถประเมินความเสียหายได้ แต่รัฐบาลอังกฤษระบุว่าเหยื่อจากเหตุการณ์นี้ที่สูญเสียที่อยู่อาศัยจะได้รับเงิน 5,500 ปอนด์
Photo: Tolga AKMEN, AFP
เหตุการณ์เพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์สะท้อนถึงการละเลยของภาครัฐเป็นเวลาหลายปี
การเรียกร้องของประชาชนต่อความปลอดภัยของอาคาร Grenfell Tower ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีใครรับฟัง ไม่ว่าจะเป็น การมีทางออกเพียงแค่ทางเดียว หรือขาดแคลนระบบสปริงเกอร์ดับเพลิงจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้เศร้าสลด ได้ลุกลามกลายเป็นความโกรธของประชาชนของผู้อยู่อาศัยในอาคารอื่นๆ ในลอนดอนด้วย ที่ความอัดอั้นตันใจของพวกเขาไม่เคยได้รับการสนใจจากสภาเทศบาลและภาครัฐ
ซาดิก ข่าน (Sadiq Khan) นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนยอมรับว่า เหตุเพลิงไหม้ Grenfell Tower นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ป้องกันได้ แต่เกิดจากความละเลยของสภาเทศบาลเป็นเวลาหลายปี โดยสภาเทศบาลเคนซิงตันและเชลซีกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการรับมือกับเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ให้ข้อมูลกับผู้เสียหายน้อยมาก
ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้เสียหายได้พบกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เพื่อสะท้อนถึงการจัดการของผู้ให้เช่าที่ไม่ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้เพียงพอ และได้กลายเป็นความโกรธของชาวลอนดอนต่อความละเลยของสภาเทศบาลต่างๆ นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนกล่าวว่า “มันเป็นความรู้สึกของประชาชนว่าสภาเทศบาลและรัฐบาลไม่เข้าใจความเดือดร้อนของพวกเขา และไม่เคยสนใจ พวกเขาเบื่อกับคำพูดซ้ำซากของนักการเมือง”
ความโกรธยังพัฒนากลายเป็นการประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ลาออก และประท้วงต่อต้านพรรคอนุรักษนิยมของเธอเมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดชายที่ถูกผู้ประท้วงเข้าใจผิดว่าเป็นสมาชิกสภาเทศบาลถูกผู้ประท้วงใช้ไม้ทุบตีจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นชนวนให้ผู้ประท้วงชาวลอนดอนต่างออกมาระบายความอัดอั้นเรื่องอื่นๆ ตั้งแต่สิทธิพลเมือง สิทธิผู้ใช้แรงงาน ไปจนถึงการเหยียดเชื้อชาติและศาสนาในลอนดอน ที่สะท้อนถึงความไม่เป็นธรรมของภาครัฐ โดยนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ยอมรับว่า การสนับสนุนช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้นั้นยังไม่เพียงพอ
อ้างอิง:
– BBC/ AFP/ Reuters