ศาลสเปนสั่งจำคุก 8 อดีตรัฐมนตรีแคว้นกาตาลุญญา เดินหน้าเอาผิดอดีต ปธน. หลังลี้ภัยไปเบลเยียม

ศาลสเปนสั่งจำคุกอดีตรัฐมนตรีท้องถิ่นของกาตาลุญญา 8 คน รวมถึงนายโอริออล ยุงเคอรัส อดีตรองประธานาธิบดี ที่เดินทางเข้าพบศาลวานนี้ (2 พ.ย.) ภายหลังจากที่รัฐบาลกาตาลุญญาเดินหน้าประกาศเอกราชแต่เพียงฝ่ายเดียวจากสเปนเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งถูกตั้งข้อกล่าวหาก่อการกบฏ ปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาลกลาง และใช้งบประมาณของรัฐในทางมิชอบ

โดยอัยการได้ร้องขอต่อศาลถึงความเป็นได้ที่จะออกหมายจับระหว่างประเทศต่อนายการ์เลส ปิกเดมองต์ อดีตประธานาธิบดีกาตาลุญญา และบรรดาอดีตรัฐมนตรีอีก 4 คนที่ลี้ภัยอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ พร้อมทั้งส่งตัวทั้งหมดกลับสเปนหลังจากถูกตั้งข้อกล่าวหาและไม่มาชี้แจงต่อศาลเมื่อวานนี้ ซึ่งนายการ์เลสอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี
การ์ลอส เลสเมส ประธานศาลสูงสุดของสเปน กล่าวว่า “ใครก็ตามที่ไม่ปรากฏตัวตามที่ศาลมีคำสั่งเรียกพบเพื่อชี้แจงข้อมูลทั้งในสเปนหรือประเทศอื่นๆ ในยุโรป โดยทั่วไปแล้วจะถูกออกหมายจับ”

ทางด้านนายการ์เลสระบุว่า เขาและอดีตรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะยังคงอยู่ที่เบลเยียมต่อไป “ไม่ใช่เพราะพวกเราจะหลบหนีความยุติธรรม แต่เราต้องการให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นภายในสเปนก่อนต่างหาก” พร้อมทั้งวิจารณ์บทลงโทษที่ใช้ตัดสินนักโทษทางการเมืองว่าเลวร้ายและรุนแรงเกินกว่าเหตุเทียบเท่ากับคดีฆาตกรรมหรือการก่อการร้าย

ผู้นำกาตาลุญญายังเรียกร้องให้ชาวคาตาลันออกมาเดินขบวนประท้วงต่อไปโดยปราศจากการใช้ความรุนแรง และเคารพต่อทุกความเห็นของผู้อื่น “ในฐานะประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างชอบธรรม ผมต้องการให้ปล่อยรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีคนอื่นๆ พร้อมทั้งเคารพทุกทางออกและยุติการปราบปรามทางการเมืองโดยเร็ว”

ขณะที่ปาโบล อิเกลเซียส ผู้นำพรรค Podemos ที่เห็นต่างกับแนวทางของรัฐบาลแคว้นกาตาลุญญามาโดยตลอดให้ความเห็นว่า “ผมรู้สึกละอายเหลือเกินที่พวกเขาตัดสินใจควบคุมฝ่ายตรงข้ามภายในประเทศแห่งนี้ ผมไม่ได้ต้องการให้กาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราช แต่ในวันนี้พวกเราต้องออกมาเรียกร้องให้มีการปล่อยนักโทษทางการเมืองทุกคน”

สเปนได้กลับมาสู่วังวนแห่งความขัดแย้งอีกครั้ง นับเป็นวิกฤตการเมืองครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี หลังจากที่นายการ์เลสเดินหน้าจัดการลงประชามติขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อนำพาให้ชาวคาตาลันทุกคนเข้าใกล้ความฝันที่อยากจะมีประเทศเป็นของตัวเอง

อ้างอิง: