การส่งสัญญาณเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมธุรกิจคาสิโนในมาเก๊าของรัฐบาลจีน รวมถึงความวิตกต่อปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับ China Evergrande Group บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน ซึ่งมีความเสี่ยงจะลุกลามจนส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยและสถาบันการเงินในภาพรวมของประเทศ ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมามีมุมมองเชิงลบต่อหุ้นจีนอีกครั้ง
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นจีนทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบเดือน ทั้งดัชนี HSI ของฮ่องกง และดัชนี CSI 300 ในแผ่นดินใหญ่ พากันปรับตัวลดลงกว่า 3% โดยดัชนี HSI มีการซื้อขายใกล้เคียงจุดต่ำสุดในรอบปี และในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็มีแนวโน้มว่าดัชนี CSI จะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
“ความเสี่ยงของหุ้นจีนเริ่มเทไปในทางลบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจเชิงมหภาคและความไม่แน่นอนในการบังคับใช้นโยบายควบคุมต่างๆ ของรัฐบาลจีน” Laura Wang นักกลยุทธ์ของ Morgan Stanley กล่าว
Morgan Stanley ระบุด้วยว่า การประเมินผลกระทบจากมาตรการกวาดล้างต่างๆ ของจีนในปัจจุบันยังทำได้ยาก ทำให้ธนาคารชื่อดังตัดสินใจปรับลดเป้าหมายดัชนี HSI และ CSI ของตัวเองลง 4%
เมื่อไม่นานมานี้นักลงทุนเพิ่งจะเริ่มกลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นจีนอีกครั้ง เนื่องจากคาดว่าจุดเลวร้ายสุดของการออกมาตรการกวาดล้างของจีนได้ผ่านไปแล้ว แต่พวกเขาก็ต้องพบกับข่าวร้ายอีกถึงสองข่าวคือ การส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มการควบคุมอุตสาหกรรมคาสิโนในมาเก๊าของรัฐบาลจีน ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดในอุตสาหกรรมดังกล่าวหายไปแล้วถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนอีกหนึ่งข่าวใหญ่คือปัญหาวิกฤตหนี้ของ Evergrande ที่อาจส่งผลกระทบใหญ่ต่อภาพรวมเศรษฐกิจจีน
สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นของ Sands China หนึ่งในเจ้าของธุรกิจคาสิโนในมาเก๊า ร่วงลงกว่า 40% หลังรัฐบาลจีนส่งสัญญาณว่าแต่งตั้งคณะตัวแทนขึ้นมากำกับธุรกิจคาสิโน โดยอาจพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของคนท้องถิ่น รวมถึงเข้มงวดเรื่องการจ่ายปันผลขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลจีนถือเป็นผลกระทบที่ซ้ำเติมธุรกิจคาสิโนที่การเติบโตลดลงจากปัญหาวิกฤตโควิดอยู่แล้ว ทำให้ดัชนีผู้ประกอบการคาสิโนทั้ง 6 รายของ Bloomberg ตกลง 31% ในสัปดาห์นี้ โดย HSI จัดเป็นหนึ่งในดัชนีที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุดในโลกของปีนี้ ไตรมาสนี้ และสัปดาห์นี้
“ในช่วงตลาดเดือนกันยายน นักลงทุนต่างประเมินว่าการออกมาตรการควบคุมของทางการจีนน่าจะเริ่มซาลงแล้ว แต่เหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วว่าจีนยังมีความต้องการและอาจจำเป็นต้องจัดระเบียบบ้านในอีกหลายด้าน” James Cordwell นักวิเคราะห์จาก Atlantic Equities กล่าว
ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนยังต้องเผชิญกับแรงกดดันให้เข้าไปช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ก้อนใหญ่มูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ของ Evergrande เพื่อป้องกันปัญหาลุกลาม หลังจากยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์รายนี้ถูกสั่งห้ามซื้อขายตราสารหนี้ในตลาด Onshore ไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นจากกรณีของ Evergrande ได้ส่งผลให้ดัชนีย่อยด้านอสังหาริมทรัพย์ของ HSI ดิ่งลง 8% ในสัปดาห์นี้ นับเป็นผลงานที่เลวร้ายสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020
ขณะที่ดัชนีย่อยกลุ่มเทคโนโลยีของ HSI ปรับตัวลดลง 4% หลังมีข่าวเชิงลบว่ารัฐบาลจีนมีแผนเข้าควบคุมธุรกิจปล่อยกู้ของ Alipay ที่อยู่ภายใต้ Ant Group ทำให้มูลค่าหุ้นของ Alibaba Group Holdings ปรับลดลงสร้างสถิติ ส่วนหุ้นของ Tencent ก็มีมูลค่าตลาดลดลงจนหลุดออกจากลิสต์ 10 อันดับบริษัทใหญ่ของโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
อ้างอิง: