คนทำงาน จะประสบความสำเร็จได้ด้วยความขยัน + กลยุทธ์ที่ถูกต้อง
เป็นเรื่องธรรมดาของคนทำงานทั่วๆ ไปหรือ “มนุษย์เงินเดือน” ในโลกของการทำงานที่อยากจะทำงานแล้วประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้เลื่อนตำแหน่งมีความก้าวหน้า จนสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัวผ่านการทำงานหนักในองค์กรใหญ่
แต่เป้าหมายทั้งหมดนี้อาจไม่เป็นจริงเสมอไป หากปราศจากกลยุทธ์ที่ถูกต้อง
เมื่อพูดถึงคำว่า “กลยุทธ์” หลายคนอาจนึกถึงผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของธุรกิจ แต่ในความเป็นจริง กลยุทธ์สามารถนำมาใช้กับทุกระดับของการทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป การมีแนวคิดเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้เราก้าวข้ามจากการเป็นแค่พนักงานธรรมดา ไปสู่การเป็นบุคลากรที่องค์กรขาดไม่ได้
หากเปรียบเทียบโลกของการทำงานกับพีระมิด เราจะเห็นว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด คนเหล่านั้นมีแนวคิดและวิธีการทำงานที่แตกต่างจากคนทั่วไป และสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาโดดเด่นก็คือ การสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะยาว (Superior Long-Term Performance)
🟡 3 องค์ประกอบของความสำเร็จในอาชีพ
ในโลกของธุรกิจ ความสำเร็จมักถูกวัดจาก กำไร การเติบโต และความยั่งยืน ซึ่งแนวคิดเดียวกันนี้สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้เช่นกัน
- กำไร (รายได้) : ในบริบทของคนทำงาน กำไรหมายถึงรายได้ที่ได้รับ คนที่สร้างผลงานได้โดดเด่น ย่อมมีโอกาสเรียกร้องค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
- การเติบโต (ความก้าวหน้าในอาชีพ) : ความก้าวหน้าไม่ได้หมายถึงเพียงการเลื่อนตำแหน่ง แต่รวมถึงการได้รับโอกาสใหม่ๆ ที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถของตนเอง
- ความยั่งยืน (ความมั่นคงในการทำงาน) : คนที่มีความสามารถและคุณค่าต่อองค์กรจะสามารถรักษาตำแหน่งงานไว้ได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแทนที่ง่ายๆ
คำถามคือ แล้วเราจะสามารถบรรลุ 3 องค์ประกอบดังกล่าวได้อย่างไร?
ในเมื่อทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งที่ทำให้คนหนึ่งประสบความสำเร็จมากกว่าอีกคนคือ วิธีการใช้เวลา คนที่ประสบความสำเร็จมักใช้เวลาของพวกเขาไปกับกิจกรรมที่สร้างคุณค่าและผลลัพธ์ที่จับต้องได้
🔺การทำงานที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ การทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง (Do Things Right)
🔺แต่ที่สำคัญกว่าคือการทำงานอย่างมีประสิทธิผล (Effectiveness) ซึ่งหมายถึง การทำสิ่งที่ถูกต้อง (Do the Right Things)
ในการทำงาน หลายคนมักให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพ” (Efficiency) เพราะเชื่อว่าการทำงานอย่างรวดเร็ว เป็นระเบียบ และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าจะนำไปสู่ความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ “ประสิทธิผล” (Effectiveness) เพราะการทำงานอย่างมีประสิทธิผลคือการเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง และสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงให้เกิดขึ้น
ลองนึกภาพพนักงานสองคนที่ต้องจัดทำรายงานส่งผู้บริหาร
คนแรก ใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการจัดทำรายงานที่ละเอียดมาก ตัวเลขเป๊ะ กราฟดูดี และทุกอย่างเป็นระเบียบสุดๆ แต่ปัญหาคือ เนื้อหาของรายงานไม่ได้ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริหารต้องการใช้ตัดสินใจ
คนที่สอง ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง จัดทำรายงานที่เน้นเฉพาะประเด็นสำคัญที่ผู้บริหารต้องใช้ในการตัดสินใจ แม้ว่ากราฟอาจจะไม่สวยเป๊ะเท่าคนแรก แต่รายงานของเขากลับได้รับการนำไปใช้จริง
ในตัวอย่างนี้ คนแรกอาจมี “ประสิทธิภาพ” มากกว่า เพราะเขาทำงานออกมาอย่างละเอียดและเรียบร้อย แต่คนที่สองมี “ประสิทธิผล” มากกว่า เพราะเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตรงจุดประสงค์ และให้ผลลัพธ์ที่มีค่ากว่านั่นเอง
🟡 ทำไม “ประสิทธิผล” จึงสำคัญกว่าประสิทธิภาพ?
🔺ทำถูกวิธี ≠ ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งการทำงานอย่างมีระเบียบ ไม่ได้แปลว่าจะนำไปสู่ความสำเร็จเสมอไป หากคุณทำงานที่ไม่จำเป็นหรือไม่สำคัญ ต่อให้ทำได้ดีแค่ไหน ก็อาจไม่มีผลกระทบต่อเป้าหมายที่แท้จริง
🔺โลกของงานวัดกันที่ผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่ความขยัน โดยคนที่ทำงานหนักอาจได้รับคำชม แต่คนที่สร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าให้กับองค์กรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และมีรายได้ที่สูงขึ้น
🔺ทรัพยากรและเวลามีจำกัด ต้องใช้ให้คุ้ม เพราะในชีวิตการทำงาน เรามีทั้งเวลาและพลังงานที่จำกัด การเลือกทำสิ่งที่สำคัญก่อน และทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น
🟡 กลยุทธ์ในการสร้างความได้เปรียบในการทำงาน
ดังนั้นเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นจากคนอื่นๆ ในองค์กร มีหลักคิดที่สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้
🔺หาโอกาสที่เหมาะสม : มองหาการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม เทรนด์ตลาด หรือโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณเติบโต
🔺พัฒนาจุดแข็งของตัวเอง : ใช้เครื่องมืออย่าง Strength Finder เพื่อค้นหาว่าคุณมีความสามารถเด่นด้านใด และนำมาพัฒนาให้กลายเป็นข้อได้เปรียบ
🔺ลงมือทำทันที : ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากการคิดอย่างเดียว ต้องมีการลงมือทำจริง พร้อมปรับตัวและเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
🔺บริหารความเร็ว : ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คนที่ลงมือทำก่อน ย่อมมีโอกาสมากกว่า แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แบบ 100%
ท้ายที่สุดนี้ คนทำงานที่ต้องการความสำเร็จต้องเริ่มต้นจาก การมีแนวคิดเชิงกลยุทธ์ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน พัฒนาทักษะที่มีค่า และบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือลงมือทำโดยไม่รอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
ลองจินตนาการถึงตัวเองในอีก 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปีข้างหน้า คุณอยากให้ชีวิตของตัวเองเป็นแบบไหน? ถ้าวันนี้คุณทำงานแบบสบายๆ ไม่พยายามพัฒนาตัวเองเลย อนาคตของคุณจะเป็นอย่างไร?
แนวคิดนี้คล้ายกับหลักการของเครื่องบิน เวลาที่ต้องทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มันต้องใช้พลังงานสูงสุด แต่เมื่อขึ้นไปถึงระดับความสูงที่เหมาะสมแล้ว การบินจะราบรื่นขึ้น หากเปรียบเทียบกับชีวิตการทำงาน ถ้าเราเต็มที่กับงานในช่วงแรก สร้างรากฐานที่มั่นคง เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราจะสามารถ “บิน” ได้อย่างมั่นคงและมีความสุข