โดยปกติแล้วเมื่อเราพูดถึง ‘รถ’ หลายคนอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “รถมีแต่มูลค่าจะลดลงเรื่อยๆ” แต่ในอีกมุมหนึ่งรถกลับเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพ สามารถแปลงเป็นเงินทุน เพื่อต่อยอดโอกาสและความฝันให้กับเราได้อย่างมีคุณค่า
ในยุคที่การเข้าถึงสินเชื่อยังคงเป็นความท้าทายสำหรับกลุ่มคนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่ม Unbanked และ Underserved การเกิดขึ้นของ เงินให้ใจ แบรนด์ธุรกิจรถแลกเงินที่ให้บริการสินเชื่อโดยใช้รถเป็นสินทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งมอบโอกาสให้กับกลุ่มคนที่เคยถูกมองข้าม
THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ ชลารัตน์ พินิจเบญจพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินให้ใจ จำกัด เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของเงินให้ใจ เพื่อสร้างความแตกต่างในการให้บริการรถแลกเงิน
แทนที่จะเปิดสาขาในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างที่หลายบริษัทในตลาดทำ แต่เงินให้ใจใช้กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าผ่านเครือข่ายของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นจุดแข็ง
“จุดแข็งสำคัญของเงินให้ใจคือ การนำข้อมูลพฤติกรรมทางการเงินจากฐานลูกค้ากสิกรไทยมาประกอบการวิเคราะห์ เช่น การฝาก-ถอน การทำธุรกรรม หรือพฤติกรรมการใช้จ่ายในระบบธนาคาร ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เงินให้ใจสามารถคัดกรองลูกค้าได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ลดต้นทุนการดำเนินงาน และช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติให้กับกลุ่มลูกค้าที่เคยเข้าถึงสินเชื่อได้ยาก” ชลารัตน์กล่าว
แน่นอนว่าเราไม่ได้เปิดรับลูกค้าที่เป็นลูกค้าเงินฝากของกสิกรไทยเท่านั้น แต่สำหรับกลุ่มที่มีบัญชีเงินฝากกับกสิกรไทยอยู่แล้ว ทำให้เราสามารถอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าเหล่านี้ได้บนต้นทุนที่ต่ำกว่า รวมทั้งการติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์แทนที่การใช้พนักงานจำนวนมาก รวมถึงการสมัครสินเชื่อผ่าน K PLUS แพลตฟอร์มโมบายล์แบงกิ้งที่ลูกค้าคุ้นเคย ทั้งสะดวกและง่าย
เน้นการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตชะลอลง สถาบันการเงินและธุรกิจการเงินปล่อยสินเชื่อยากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วลูกค้ากลับมีความต้องการเงินทุนมากขึ้น
ชลารัตน์เล่าว่า ปัจจุบันการหาลูกค้าไม่ยาก แต่สิ่งสำคัญคือการคัดกรองคุณภาพ ซึ่งเราพยายามเข้าถึงกลุ่มที่อยากนำเงินทุนไปต่อยอดโอกาส เราอยากให้ลูกค้าเข้าใจว่ารถเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและเป็นโอกาสในการสร้างทุน ไม่ใช่เพียงการจำนำหรือโอนรถ แต่เป็นการต่อยอดชีวิตและธุรกิจ
ด้วยการที่บริการรถแลกเงินเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ ทำให้หลายคนอาจมองว่าเป็นเงินฉุกเฉิน แต่ในความเป็นจริงแล้วอยากให้มองว่ารถที่เป็นทรัพย์สินสามารถแปลงเป็นเงินทุนเพื่อต่อยอดได้
“เราไม่ได้มองรถเป็นเพียงหลักประกัน แต่รถยังสะท้อนวินัยทางการเงินของเจ้าของด้วย เช่น การผ่อนชำระรถในอดีต การดูแลรักษา หรือระยะเวลาถือครองรถ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้อย่างแม่นยำและมั่นใจ” ชลารัตน์กล่าว
แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาด แต่เงินให้ใจวางเป้าหมายในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้ความสำคัญกับการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่อาจเข้าไม่ถึงสินเชื่อ (Underserved)
“เราหวังว่าเงินให้ใจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับสินเชื่อในระบบ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการกู้นอกระบบเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างโอกาสและความมั่นคงในชีวิตอีกด้วย”
ชลารัตน์กล่าวทิ้งท้ายว่า “คำว่าให้ใจในชื่อ ‘เงินให้ใจ’ หมายถึงการใส่ใจ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญคือเราอยากจะเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า”
ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เงินให้ใจจึงไม่ใช่แค่การนำเสนอสินเชื่อ
สนใจสมัครเงินให้ใจ รถแลกเงิน คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ngernhaijai.com และ LINE Official คลิกเลย https:/lin.ee/vKNvklq
คำเตือน: กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
- อัตราดอกเบี้ยโอนเล่มทะเบียนแบบคงที่ 3.10-15% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยจำนำทะเบียนแบบลดต้นลดดอก 12.82-24% ต่อปี