เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินโปรเจกต์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ริมฝั่งถนนเจริญกรุงอย่างโครงการเจ้าพระยาเอสเตท (Chao Phraya Estate) กันบ้างในปี 2019 ที่ผ่านมา ว่าทั้งโครงการจะพร้อมเปิดตัวในปี 2020 ประกอบไปด้วย โฟร์ซีซันส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ, โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ ซึ่งจากสถานการณ์ไม่คาดคิดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้โครงการของเจ้าพระยาเอสเตท ต้องฝ่าวิกฤตเกิดการล่าช้า แต่ในที่สุดโครงการแรกอย่างโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
คาเพลลา กรุงเทพฯ คือโลเคชันแรกในประเทศไทยของเครือ Capella Hotels and Resorts ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดให้บริการ ณ เมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั้ง สิงคโปร์, อูบุด, เซียงไฮ้, ซานยา และดึสเซลดอร์ฟ ก่อนเดินทางมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และเตรียมการที่จะเปิดให้บริการในหมุดหมายถัดไปอย่าง ฮานอย, ซิดนีย์, มัลดีฟส์, และเชียงใหม่ นั่นเอง
กลับมาที่ความน่าตื่นตาตื่นใจของกรุงเทพฯ งานดีไซน์ของคาเพลลา กรุงเทพฯ นั้นเกิดจากการร่วมมือกันระหว่างสถาปนิก แอนดี้ มิลเลอร์, ริชาร์ด สกอตต์ วิลสัน และทีมออกแบบตกแต่งภายในจากบริษัทบาโม่ (BAMO) หยิบเอาแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นด้านวัฒนธรรมของถนนเจริญกรุง ถนนเส้นแรกของกรุงเทพฯ ถ่ายทอดผสมผสานเข้ากับความผ่อนคลายในสไตล์การเข้าพักแบบรีสอร์ต โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพระเอกหลัก ที่นอกจากวิลล่าริมน้ำแล้ว ทุกห้องพักและวิลล่ารวม 101 ห้อง ถูกออกแบบให้หันหน้าออกเพื่อมองวิวแม่น้ำ ทำให้ไม่ว่าคุณจะพักผ่อนอยู่ที่ไหนก็จะได้รับประสบการณ์แบบรีสอร์ตริมน้ำเช่นเดียวกัน
ในเรื่องของอาหารก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เพราะห้องอาหารที่ถือเป็นไฮไลต์ของโรงแรมคือ โค้ท บาย เมาโร โคลาเกรคโค (Côte by Mauro Colagreco) เสิร์ฟอาหารสไตล์ริเวียร่าจากฝรั่งเศสและอิตาลี ภายใต้การนำของเชฟชาวอาร์เจนตินา เมาโร โกลาเกรโก เชฟเจ้าของร้านอาหาร Mirazur ในประเทศฝรั่งเศส เจ้าของรางวัลร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019 จากการจัดอันดับรายการ World’s 50 Best Restaurants 2019 เชฟเมาโรผ่านประสบการณ์การทำงานร่วมกับเชฟชื่อดังระดับโลกมากมายอย่าง เชฟเบอร์นาร์ด ลอยโซ (Bernard Loiseau), เชฟอแลง พาสสาร์ด (Alain Passard) รวมถึงเชฟอแลง ดูกาส (Alain Ducasse) ที่เปิดร้านอาหาร Blue by Alain Ducasse ในบ้านเราเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้อาหารของเขาเป็นที่น่าจับตามอง และถือเป็นหมุดหมายใหม่ของสายชิมเลยทีเดียว
นอกจาก Côte by Mauro Colagreco แล้ว โรงแรมยังมีห้องอาหารไทย Phra Nakhon โดยเชฟเล็ก-วิเชียร ไตรรัตนวาธิน และ สเตลลา บาร์ (Stella) ค็อกเทลบาร์ดีไซน์ขรึมของโรงแรม ที่นอกจากจะเสิร์ฟค็อกเทลเคล้าดนตรีป๊อปแจ๊สแล้ว ยังออกแบบเซ็ตเมนูจับคู่เครื่องดื่มกับขนมหวาน สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในเวลาค่ำคืนได้เป็นอย่างดี
ภาพถ่ายมุมสูง
ภายในตัวโรงแรมตั้งแต่บริเวณล็อบบี้จนถึงห้องพัก มีการตกแต่งด้วยงานศิลปะจากศิลปินไทยและต่างประเทศ ที่หยิบเอาเรื่องของแม่น้ำเจ้าพระยา และถนนเจริญกรุงขึ้นมาถ่ายทอด
บรรยากาศภายในห้องพักแบบวิลล่า ซึ่งคาเพลลา กรุงเทพฯ เป็นโรงแรมเดียวที่มีห้องพักแบบวิลล่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บรรยากาศภายในห้องพัก
สเตลลา บาร์
สเตลลา บาร์
ห้องอาหาร Phra Nakhon
ลิฟวิ่งรูม คืออีกหนึ่งบริการจากทางโรงแรม ที่ลูกค้าสามารถเข้ามานั่งพักผ่อน หรือเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงานได้ตลอด พร้อมบริการ Capella Culturist ให้บริการข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับถนนเจริญกรุง ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณรอบๆ โรงแรม
บรรยากาศริมสระว่ายน้ำเมื่อพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ภาพ: วรรษชล คัวดรี้ และ Courtesy of the Hotel
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
เพื่อเป็นการต้อนรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทางโรงแรมยังมีดีลสเตเคชันราคาพิเศษ เริ่มต้นคืนละ 17,500 บาท พร้อมรับเครดิตเพื่อใช้ในห้องอาหารของโรงแรมเริ่มต้น 8,800 บาท บริการอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน พร้อมแชมเปญซิกเนเจอร์ของโรงแรม 1 ขวด และบริการอื่นๆ ภายในโรงแรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.capellahotels.com
Capella Bangkok
Address: 300/2 ถนนเจริญกรุง ยานนาวา สาทร กรุงเทพฯ
Web: www.capellabangkok.com และ @CapellaBangkok
Map: