ทีมเล็กหัวใจใหญ่! เคปเวิร์ด หมู่เกาะกลางทะเล สู่เวที ฟุตบอลโลก 2026

บอกไปใครจะเชื่อ? ว่าประเทศหมู่เกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่มีประชากรเพียง 5 แสนคน และเคยมีอันดับ FIFA Ranking อยู่ที่ 141 เมื่อเพียง 8 ปีก่อน จะก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกได้ในปีนี้

แต่ใช่ ‘เคปเวิร์ด’ ทำได้จริง!

พวกเขากำลังจะกลายเป็นชาติที่มีประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย รองจากไอซ์แลนด์เมื่อปี 2018

ชัยชนะเหนือ เอสวาตินี 3-0 ในนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือกโซนแอฟริกา ต่อหน้าแฟนบอลกว่า 15,000 คนในสนามกีฬาในเมืองไพรอา คือบทสรุปของการรอคอยอันยาวนาน และเป็นเครื่องยืนยันว่า ความฝันของประเทศเล็กๆ ก็สามารถสร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ได้จริง

เคปเวิร์ดคือประเทศหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่มีประชากรเพียงราว 525,000 คน หรือเทียบเท่ากับประชากรของบางจังหวัดในไทย

ในประเทศนี้ ฟุตบอลอาจไม่ใช่อาชีพที่มั่นคง แต่มันคือความฝันที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

ลีกในประเทศมีเพียง 12 ทีม สนามแข่งขันส่วนใหญ่ไม่ได้หรูหรา แต่เต็มไปด้วยแรงศรัทธาของผู้คนที่รวมเงินกันซื้อลูกฟุตบอลเพื่อลูกหลานได้เตะได้ฝึกซ้อมกัน

เมื่อโอกาสในประเทศมีจำกัด นักฟุตบอลหลายคนจึงเลือกต้องออกเดินทาง…

บางคนไปโปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส หรือไอร์แลนด์ เพื่อหาชีวิตใหม่ แต่เมื่อใดที่ทีมชาติต้องการตัว…หัวใจของพวกเขาจะยังกลับมาที่เกาะบ้านเกิดของพ่อแม่เสมอ

ทีมชุดนี้เต็มไปด้วยนักเตะลูกครึ่งและนักเตะที่เกิดในต่างแดน เช่น โรแบร์โต ‘ปิโก’ โลเปซ กองหลังจาก Shamrock Rovers (ทีมอันดับที่ 1 ในลีกไอร์แลนด์) ที่ได้รับการติดต่อให้ติดทีมชาติผ่าน… LinkedIn เว็บไซต์หางานชื่อดัง

“พ่อของผมมาจากเกาะเซา นิโกลาว (Sao Nicolau) เขาย้ายออกจากที่นั่นตอนอายุ 16 ปี” โลเปซ กล่าวในพอดแคสต์ Destination New Jersey ของ BBC

“ผู้คนมักมองหาโอกาส และเส้นทางฟุตบอลนอกประเทศ ดูเหมือนว่าจะมีการอพยพครั้งใหญ่จากบ้านเกิดของเรา

“พวกเราอยู่กระจายไปทั่วโลก และมันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นสิ่งที่เราสามารถทำได้…เมื่อเรารวมพลังกัน”

และอีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของทีมชาติเล็กๆ นี้ มาจากชายชื่อ เปโดร ไลเตา บริโต หรือที่แฟนบอลเรียกกันว่า ‘บุบิสตา’ (Bubista) อดีตนักเตะทีมชาติผู้เข้าใจหัวใจของคนในประเทศมากกว่าใครๆ

เขาเข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติในปี 2020 ช่วงเวลาที่ฟุตบอลเคปเวิร์ดแทบไม่เหลือความหวัง หลังทีมตกรอบศึกแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ (AFCON) อย่างน่าผิดหวัง และถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดคุณภาพที่จะก้าวไปไกลกว่านี้

แต่แทนที่สมาคมฟุตบอลจะเลือกทางลัดด้วยการเปลี่ยนแปลง พวกเขากลับเลือก ‘ความต่อเนื่อง’ และมอบเวลาให้บุบิสตาสร้างทีมในแบบที่เขาเชื่อ

แนวทางของบุบิสตานั้นเรียบง่ายแต่ชัดเจนมาก นั่นคือการสร้างทีมที่มีระบบ เล่นด้วยวินัย และสู้ทุกจังหวะอย่างมีหัวใจ

แม้ไม่มีงบประมาณมหาศาล ไม่มีนักเตะจากลีกใหญ่ แต่เขาใช้ทุกสิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ภายใต้การนำของเขา เคปเวิร์ดกลายเป็นทีมที่เล่นด้วยความรัดกุม มีเกมรับที่แน่นหนาและระเบียบแท็กติกที่แม่นยำทุกจังหวะ

พวกเขารู้ว่าจะรอจังหวะไหนให้ถึงที่สุด และเมื่อโอกาสมาถึง ก็พร้อมพุ่งเข้าใส่อย่างเด็ดขาด เปรียบดั่งฉลามที่ได้กลิ่นเลือดในผืนน้ำ

เพราะในโลกของฟุตบอล…โอกาสเพียงเสี้ยววินาทีเดียวเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้เสมอ และเคปเวิร์ดคือทีมที่รู้จักใช้มันได้ดีที่สุด

แม้จะพลาดตั๋วไปเล่น AFCON 2025 (ที่กำลังเตะในเดือนธันวาคมนี้) แต่สมาคมฟุตบอลยังคงหนุนหลังเขา และความศรัทธานั้นตอบแทนกลับมาด้วย ชัยชนะ 5 นัดรวดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก รวมถึงเกมสำคัญที่ชนะทั้ง แคเมอรูน และ แองโกลา

สำหรับเคปเวิร์ด ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดจากโชค หากแต่เกิดจากศรัทธาและพลังฝีเท้าของนักเตะที่เชื่อในเพื่อนร่วมทีม

ศรัทธาของโค้ชที่เชื่อในวิถีของตัวเอง และศรัทธาของผู้คนบนเกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทร ที่เชื่อว่าความฝันของพวกเขาไม่เล็กเกินจะเป็นจริง

นี่คือทีมที่ไม่ได้อุดมไปด้วยแข้งซูเปอร์สตาร์ ไม่มีชื่อจากลีกใหญ่ในยุโรป แต่ทุกคนลงสนามด้วยหัวใจที่ภาคภูมิในรากเหง้าของตนเอง และนั่นเพียงพอที่จะพาทัพฉลามสีน้ำเงิน ทะยานขึ้นสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติ

และบางที เรื่องราวของเคปเวิร์ดอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกประเทศที่ยังคงฝันถึงฟุตบอลโลกได้มองเห็นว่า

หนทางสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ไม่ได้เริ่มต้นจากเงินทองหรือชื่อเสียงของคนใดคนหนึ่ง

แต่มันเริ่มจากความเชื่อที่อยู่ในใจ และวันนี้ พวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่า ความเชื่อนั้น…สามารถเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นจริงได้จริงๆ