https://www.youtube.com/watch?v=WYLCfSC3mIE&feature=youtu.be
เกิดเหตุไฟป่าลุกลามในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตไวน์ชั้นยอดของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน ด้วยแรงลมทำให้ไฟป่าโหมลุกขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง สร้างความเสียหายต่ออาคารและทรัพย์สินไปแล้วกว่า 1,500 หลังคาเรือน หรือประมาณ 144,000 ไร่
ทางการท้องถิ่นของแคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉิน สั่งอพยพผู้คนในพื้นที่กว่า 20,000 คน พร้อมทั้งนำตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คนส่งโรงพยาบาล นักดับเพลิงต้องใช้เวลาเกือบตลอดทั้งคืน เพื่อช่วยกันพยายามดับไฟ ก่อนที่จะเริ่มควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ นับเป็นเหตุไฟป่าครั้งที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย
Jesus Torres หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายที่ไฟป่ากำลังลุกลามไปทางที่พักอาศัยของเขาในเขตนาปา กล่าวว่า “พวกเราช่วยกันหยิบสิ่งของที่จำเป็นและสัตว์เลี้ยง ก่อนที่จะรีบขึ้นรถยนต์และขับออกมา พวกเราเห็นท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งมีควันไฟปกคลุมไปทั่วบริเวณ”
We're praying for everyone. Wind seems to have died down. Photo is behind @gunbunwine #ABC7now #napafire #sonomafires #SonomaChat pic.twitter.com/zqmVsOjqjq
— Kate Kisset (@KateKisset) October 9, 2017
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่กล่าวถึงสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ระบุเพียงแค่ว่า เนื่องจากอากาศที่แห้งและร้อน อาจจะส่งผลให้เกิดการลุกไหม้และขยายตัวเป็นวงกว้างได้ง่าย
จากการเก็บรวบรวมสถิติของศูนย์ข้อมูลไฟป่าแห่งชาติสหรัฐฯ พบว่า สหรัฐฯ มียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าเฉลี่ยปีละ 13 คน นับตั้งแต่ปี 2014 โดยเหตุไฟป่าครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นเมื่อปี 1910 ที่มลรัฐอิดาโฮ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 78 คน
Photo: AFP
อ้างอิง: