×

แคลิฟอร์เนียออกกฎหมายให้นักกีฬาระดับมหาวิทยาลัยรับรายได้จากผู้สนับสนุนได้ในปี 2023

01.10.2019
  • LOADING...
Fair Pay to Play Act

นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ National Collegiate Athletic Association หรือ NCAA ลีกกีฬาระดับมหาวิทยาลัย ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 

 

เมื่อ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐ ได้ตัดสินใจลงนามบังคับใช้กฎหมายที่มีชื่อว่า Fair Pay to Play Act ซึ่งมีข้อบังคับให้มหาวิทยาลัยในรัฐแคลิฟอร์เนียไม่สามารถลงโทษนักกีฬาระดับมหาวิทยาลัยที่รับรายได้จากสปอนเซอร์ได้ 

 

โดยเมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 30 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และ เลอบรอน เจมส์ นักกีฬาบาสเกตบอล NBA ชื่อดังได้โพสต์คลิปพวกเขาทั้ง 2 ระหว่างการลงนามในกฎหมาย Fair Pay to Play Act ของนิวซัม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2023 

 

ความเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้นักกีฬาในระดับมหาวิทยาลัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย ปลดล็อกให้นักกีฬามหาวิทยาลัยมีรายได้จากลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ หลังจากที่ผ่านมาไม่สามารถรับรายได้จากผู้สนับสนุนในฐานะนักกีฬามหาวิทยาลัย เนื่องจากขัดกับกฎของ NCAA ลีกกีฬาระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ที่ต้องการขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจนระหว่างนักกีฬาอาชีพกับนักกีฬาสมัครเล่น 

 

หลังจากที่ข่าวการลงนามของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ทาง NCAA ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขาพร้อมที่ช่วยปรับเปลี่ยนกฎให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้น 

 

“เราจะพิจารณาก้าวต่อไปของพวกเราในแคลิฟอร์เนีย ระหว่างที่สมาชิกของเรากำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนกฎลิขสิทธิ์ต่างๆ ให้เข้ากับยุคปัจจุบันมากที่สุด และให้ความสำคัญการกับการศึกษาในระดับสูงสุด

 

“ระหว่างที่รัฐต่างๆ กำลังพิจารณากฎหมายข้อบังคับใช้ของพวกเขาในหัวข้อนี้ มันก็เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าข้อบังคับที่แตกต่างกันในแต่ละรัฐจะทำให้การเราไม่สามารถมอบการแข่งขันที่แฟร์และยุติธรรมสำหรับมหาวิทยาลัยกว่า 1,100 แห่ง และนักกีฬาเกือบครึ่งล้านคนทั่วประเทศ” 

 

สำหรับผู้ที่สนับสนุนกฎหมายนี้ของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย มองว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการต่อสู้เพื่อโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับนักกีฬาในลีก NCAA 

 

โดยกฎหมายนี้จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2023 ไม่ได้มีข้อบังคับให้มหาวิทยาลัยจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักกีฬาในฐานะนายจ้าง แต่เป็นการระบุว่าโรงเรียนใดก็ตามที่ห้ามไม่ให้นักกีฬาได้รับรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ให้กับผู้ที่เข้ามาเสนอ จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทันที นอกจากนี้ยังเป็นการอนุญาตให้นักกีฬาสามารถจ้างเอเจนต์มาเป็นตัวแทนบริหารสิทธิ์ให้กับพวกเขา 

 

ขณะที่ทาง ไมเคิล เดรก บอร์ดบริหารของ NCAA ยืนยันว่า พวกเขาต้องการพัฒนาและปรับปรุงเรื่องของลิขสิทธิ์ให้ทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่ากฎหมายของแคลิฟอร์เนียจะส่งผลให้ขาดความชัดเจนระหว่างนักกีฬาอาชีพและนักกีฬาสมัครเล่น 

 

ก่อนหน้านี้ทาง NCAA ได้มีการประชุมร่วมกับผู้อำนวยการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาวิธีการอัปเดตกฎข้อบังคับ ซึ่งทุกฝ่ายคาดว่าจะได้ข้อสรุปเพื่อรายงานให้กับบอร์ดบริหารในช่วงเดือนตุลาคมนี้ 

 

สำหรับการผลักดันรายได้ให้กับนักกีฬาในระดับมหาวิทยาลัยในการแข่งขันของ NCAA เป็นข้อถกเถียงในสังคมอเมริกันมาเป็นเวลานาน เนื่องจากลีกบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยของ NCAA ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี หรือที่เรียกกันว่าช่วงเวลา March Madness ซึ่งสามารถสร้างรายได้เกือบ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากผู้สนับสนุน แต่นักกีฬาไม่สามารถมีรายได้ เนื่องจากพวกเขายังอยู่ในสถานะนักกีฬาสมัครเล่น

 

ทางฝ่ายจัดการแข่งขันมองว่า สิ่งที่มอบให้นักกีฬาเหล่านี้คือโอกาสทางการศึกษา ผ่านทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันฝ่ายที่ต่อต้านมองว่านักกีฬามหาวิทยาลัยที่ได้รับทุนมีโอกาสที่ได้รับบาดเจ็บจนหมดอนาคตทางอาชีพนักกีฬา เช่นเดียวกับการสูญเสียโอกาสการสร้างรายได้ระหว่างการเล่นให้กับมหาวิทยาลัย เนื่องจากไม่ใช่นักกีฬามหาวิทยาลัยทุกคนจะได้รับโอกาสขึ้นเป็นนักกีฬาอาชีพ 

 

การเริ่มต้นของแคลิฟอร์เนียนี้คาดว่าจะผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั่วประเทศในการแข่งขันกีฬาระดับมหาวิทยาลัย เนื่องจากหากการลงเล่นในรัฐแคลิฟอร์เนียได้สิทธิประโยชน์ในการรับรายได้จากผู้สนับสนุนจะส่งผลให้นักกีฬาจากทั่วประเทศอาจต้องการย้ายไปลงเล่นให้กับมหาวิทยาลัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย 

 

เฮิร์ม เอ็ดเวิร์ดส (Herm Edwards) หัวหน้าโค้ชของทีมอเมริกันฟุตบอลรัฐแอริโซนาให้สัมภาษณ์ เผยว่า เขายังไม่มีความมั่นใจเท่าไรนักกับการที่นักกีฬามหาวิทยาลัยสามารถมีรายได้ แต่หวังว่าทุกรัฐจะผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และไม่ให้รัฐแคลิฟอร์เนียเล่นภายใต้กฎที่ไม่เหมือนรัฐอื่น 

 

ขณะที่ Pac 12 หรือกลุ่มมหาวิทยาลัยที่อยู่ทางตะวันตกของสหรัฐฯ เผยว่า พวกเขารู้สึกผิดหวังกับกฎหมายนี้ เนื่องจากเชื่อว่าจะส่งผลกระทบทางด้านลบต่อนักกีฬามหาวิทยาลัย 

 

“กฎหมายนี้จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงให้กีฬามหาวิทยาลัยกลายเป็นกีฬาอาชีพ และจะมีผลกระทบที่คาดไม่ถึงจากความเป็นมืออาชีพในการเป็นนักกีฬามากขึ้น นอกจากนี้ยังจะเป็นการลดโอกาสของนักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกชนิดต่างๆ และส่งผลกระทบด้านลบต่อนักกีฬาหญิงอีกด้วย 

 

“มหาวิทยาลัยของพวกเราได้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของนักกีฬาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังคงยึดมั่นให้ทุกคนปฏิบัติกับนักกีฬามหาวิทยาลัยของเราให้มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การศึกษา ไม่ใช่การเป็นนักกีฬาอาชีพ เราจะเดินหน้าทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนนักกีฬาของเราต่อไป” 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising