×

ยุทธพงศ์ ห่วงใช้เงินกู้มีความเร่งรีบ ไม่รอบคอบ มงคลกิตติ์ เตือนรัฐบาลเรื่องหุ้นกู้ หากพลาดอาจติดคุก

โดย THE STANDARD TEAM
30.05.2020
  • LOADING...

วันนี้ (30 พฤษภาคม) ที่รัฐสภา ความคืบหน้าการอภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฯ 3 ฉบับ รวมวงเงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อฟื้นฟูวิกฤตที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยในวันนี้ถือเป็นวันที่ 4 ของการอภิปราย คาดว่าจะเสร็จสิ้นการอภิปรายในช่วงค่ำวันนี้ และจะลงมติในวันพรุ่งนี้

 

ด้าน ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายช่วงหนึ่งว่า สนับสนุนรัฐบาลเร่งดำเนินการให้เงินถึงมือประชาชนโดยเร็ว ในส่วนของเงิน 4 แสนล้านบาทที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจนั้น สำนักงบประมาณฯ ให้สภาพัฒน์เป็นผู้ดูแลเงินจำนวนนี้ โดยเน้น 4 ด้านคือ เกษตรกรรม การท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชน และโครงสร้างพื้นฐาน 

 

แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า การเสนอโครงการมีความเร่งรีบเกินไปหรือไม่ เนื่องจากมีหนังสือจากกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งถึงท้องถิ่นและผู้ว่าฯ ทั่วประเทศให้รีบเสนอโครงการ โดยให้ส่งภายในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะทำให้ขาดความรอบคอบ ต้องไม่ลืมว่าเงิน 4 แสนล้านบาทเป็นเงินก้อนสุดท้าย จะกู้ไม่ได้อีกเพราะชนเพดานแล้ว

 

ยุทธพงศ์ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจ หรือ SMEs ด้วยการออกซอฟต์โลน ซึ่งระบุเงื่อนไขวงเงินสินเชื่อต้องไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นธุรกิจโรงแรม มีมูลค่าเกิน 500 ล้านบาทแทบทั้งสิ้น จึงไม่เข้าเงื่อนไข ทำให้ไม่ได้รับการช่วยเหลือ อีกทั้งแทนที่จะให้แบบลดเงินต้นลดดอกเบี้ย กลับเอาหนี้ไปให้ SMEs กู้เพิ่ม ซึ่งดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี เงื่อนไขคือไม่เรียกเก็บจากผู้กู้เป็นเวลา 6 เดือนนั้น ธนาคารไม่อยากปล่อยกู้ เพราะดอกเบี้ยต่ำไม่คุ้มค่า อีกทั้งการกำหนดว่าให้ชำระภายใน 2 ปี จะกลายเป็นภาระของธนาคาร เพราะหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจะทำอย่างไร ดังนั้นรัฐบาลต้องดูให้ครอบคลุม และต้องระวังการใช้จ่ายเงินจำนวน 1.9 ล้านล้านบาท เพราะเป็นเงินรอบสุดท้ายแล้ว กู้มากกว่านี้ไม่ได้ จะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

ขณะที่ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายว่า ในส่วน พ.ร.ก. การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ 2563 วงเงิน 4 แสนล้านบาท หรือ พ.ร.ก. ซื้อหุ้นกู้ ด้วยการออกพันธบัตรให้ประชาชนหรือเอกชนซื้อ โดยปกติการปล่อยหุ้นกู้จะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีเพียงหนังสือยืนยันการซื้อหุ้นกู้ แต่ในครั้งนี้อยากเสนอให้คณะรัฐมนตรีและธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำกับการซื้อหุ้นกู้ของภาคเอกชน ออกเงื่อนไขให้มีหลักเกณฑ์ค้ำประกัน 30-50% เพื่อกันพลาดป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสีย เพราะถ้าพลาดผู้ที่อนุมัติจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย เราต้องไม่ลืมว่า หนี้ที่เกิดขึ้นเป็นหนี้ของแผ่นดิน จึงขอให้รัฐบาลควบคุมกำกับติดตามว่าหุ้นกู้ดังกล่าวจะพลาดไม่ได้ ถ้าพลาดติดคุก

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

 


ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising