วันนี้ (17 สิงหาคม) รายงานจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติอนุมัติวงเงินมัดจำวัคซีน Pfizer จำนวน 20 ล้านโดส โดยต้องมัดจำที่ราคาโดสละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งวัคซีนล็อตแรกจะเข้ามาในเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2564 หรือ ไตรมาส 4 ขณะเดียวกันยังเตรียมจัดซื้ออีก 13 ล้านโดส โดยในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีน Pfizer รวม 33 ล้านโดส ซึ่งจะครอบคลุมเด็กอายุ 12 ปีให้รับการฉีดวัควีนซีนชนิดนี้ด้วย
พร้อมกันนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับวัคซีนที่จะได้นำเข้ามา ซึ่งจะหมดอายุสิ้นเดือนสิงหาคม ต้องฉีดให้เร็ว โดยทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าบริหารจัดการได้
ขณะเดียวกัน ครม. ยังเห็นชอบในหลักการให้อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้มีอำนาจในการลงนาม การรับบริจาคยาเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิดอาการหนัก จากเยอรมนีจำนวน 2,000 ชุด โดยยาชนิดนี้ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
ขณะเดียวกันเห็นชอบการลงนามในร่างรับมอบวัคซีน AstraZeneca จากรัฐบาลภูฏานและรัฐบาลไทย โดยให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้มีอำนาจในการลงนามในสัญญาดังกล่าว