ครม. ไฟเขียว ให้ต่างด้าวกลุ่มเรือสำราญต่างชาติแบบพักยาว 90-270 วัน และเป็น Special Tourist Visa เดินทางเข้าไทย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษในประเภทของเรือสำราญและกีฬา (เรือยอชต์) ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้คนต่างด้าวที่มีกำลังซื้อสูงที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางพร้อมครอบครัวเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬาภายในราชอาณาจักร 90-270 วันได้ ซึ่งจะทำให้มีการนำเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย
รวมทั้งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ และก่อให้เกิดรายได้ มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม คนต่างด้าวที่จะเดินทางเข้ามานั้นจะต้องยอมรับ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยินยอมกักตัวภายในเรือไม่น้อยกว่า 14 วัน
นอกจากนี้จะต้องมีหลักฐานการเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา โดยแสดงการเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ หรือผู้โดยสาร
ขณะเดียวกันจะต้องมีหลักฐานกรมธรรม์การทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองตรวจรักษาการติดโควิด-19 ในวงเงิน 100,000 ดอลลาร์ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในไทย รวมถึงการทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุของไทย คุ้มครองตลอดระยะเวลาที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีจำนวนเงินประกันภัย สำหรับค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้ป่วยนอก ไม่น้อยกว่า 40,000 บาท และกรณีผู้ป่วยไม่น้อยกว่า 400,000 บาท
ทั้งนี้ บุคคลต่างด้าวที่มากับเรือสำราญนั้นมีสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เพื่อเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับใช้ครั้งเดียว จากสถานการเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน นับแต่วันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
รายงาน: ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์