นักลงทุนแห่ขายหุ้น BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน หลังจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ รินขายหุ้นบางส่วนออกมา และกังวลว่าอาจจะมีการเทขายออกมาอีกในอนาคต
ราคาหุ้น BYD ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง วันนี้ (31 สิงหาคม) ปรับตัวลงมากสุดราว 13% หลังจากที่ Berkshire Hathaway Inc. บริษัทลงทุนภายใต้การบริหารของบัฟเฟตต์ลดสัดส่วนการถือครองหุ้น BYD จาก 20.49% มาเหลือ 19.92% เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้จัก BYD ชื่อนี้ ที่ Tesla อยากได้ และกำลังจะเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นครั้งที่ 3
- BYD รถยนต์ไฟฟ้าจากแดนมังกรที่กำลังจะเข้าไทย รั้งเบอร์ 2 ที่ขายได้มากที่สุดของโลกในช่วงครึ่งปีแรก 2022 ตามจี้ Tesla มาติดๆ
- BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ในมือ พรประภา ฝันที่ยิ่งใหญ่ของ ไฮโซพก ประธานวงศ์
Berkshire เข้าซื้อหุ้น BYD ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2008 จำนวน 225 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 230 ล้านบาท หลังจากนั้นราคาหุ้น BYD เพิ่มขึ้น 2,000%
บริดเจ็ต แม็กคาร์ธีย์ (Bridget McCarthy) นักวิเคราะห์ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Snow Bull Capital กล่าวว่า นักลงทุนอาจตีความสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ Berkshire อาจจะเทขายหุ้น BYD ทั้งหมดออกมา แต่ผมคิดว่าอาจเป็นเพียงการขายทำกำไรบางส่วนหลังจากถือหุ้นมากว่า 10 ปี
ขณะที่บริษัท BYD ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไปจากการที่ผู้ถือหุ้นขายหุ้นบางส่วนออกมา พร้อมกับบอกว่าการดำเนินงานของบริษัทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ นักลงทุนมองหุ้น BYD เป็นเหมือนผู้นำของกลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับครึ่งปีแรกบริษัทยังคงรายงานกำไรเติบโตทำสถิติใหม่ จำนวน 3.6 พันล้านหยวน หรือราว 521 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทคาดว่าทั้งปีนี้จะมีกำไรราว 2.8-3.6 พันล้านหยวน ขณะที่รายได้ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 66% ทำได้ 1.5 แสนล้านหยวน
ณ ราคาปิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2022 BYD ถือเป็นหุ้นบริษัทยานยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก อิงจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรที่คาดหวัง โดยเป็นรองแค่ Li Auto แต่แพงกว่า Tesla
อ้างอิง: