×

จากคดี Burning Sun สู่กรุ๊ปแชตลับ และการเปิดเผยด้านมืดของดวงจันทร์ เมื่อศิลปินกลายเป็นผู้กระทำผิด

19.03.2019
  • LOADING...

จากคดีทำร้ายร่างกาย จุดชนวนสู่ข่าวใหญ่ระดับประเทศของเกาหลีใต้ และขยายวงกว้างไปอีกหลายประเทศทั่วเอเชียจนกลายเป็นที่จับตามองระดับโลก เมื่อพบหลักฐานกรุ๊ปแชตที่มีบทสนทนาล่วงละเมิดทางเพศและแชร์คลิปแอบถ่ายผิดกฎหมาย กลายเป็นประเด็นร้อนที่ระเบิดวงการเคป๊อปครั้งใหญ่ เมื่อศิลปินหลายรายมีชื่อปรากฏในข่าวนี้

 

ล่าสุดคดีที่สังคมกำลังจับตามองในตอนนี้ ได้ถึงมือ มุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อย โดยทางมุนแจอินได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อสืบหาความจริงให้เป็นที่ปรากฏ

 

นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เห็นว่าใต้ฉากหน้าของความสวยงาม ชื่อเสียงเงินทองที่เราเห็น เป็นไปได้ว่าอีกด้านหนึ่งคือความดำมืดของปัญหาที่สะสมสืบทอดอยู่ในสังคมมายาวนาน พร้อมค่านิยมผิดเพี้ยนที่เราอาจให้ความสำคัญกับคนดังจนหลงลืมไปว่าเขาก็ต่างมีดีมีชั่วและทำผิดได้ไม่ต่างกัน

 

อะไรหรือใครที่อยู่เบื้องหลังปมปัญหาทั้งหมดคงต้องรอการสืบสวนที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ท่ามกลางตัวละครใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยตามมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการทำความเข้าใจภาพรวมเหตุการณ์ เราจึงได้รวบรวมบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหานี้ พร้อมความข้องเกี่ยวในความผิดส่วนต่างๆ ที่เกิดขึ้น

 

seungri

Photo: VIDEOMUG비디오머그

คังคยองยุน

 

นักข่าวสาว คังคยองยุน

บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขยายผลและส่งหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่อย่างกล้าหาญคือ คังคยองยุน นักข่าวสาวจาก SBS funE ที่เป็นผู้สืบสวนจนพบกับกรุ๊ปแชตต้นปัญหา โดยนักข่าวคังคยองยุนได้ให้สัมภาษณ์กับทาง SBS เกี่ยวกับกระบวนการทำงานของเธออย่างละเอียด

 

คังคยองยุนกล่าวว่าได้รับข้อมูลเรื่องห้องแชตมาราว 2 ปีแล้ว โดยเซเลบริตี้หญิงคนหนึ่งบังเอิญได้เห็นห้องแชตดังกล่าว จนกระทั่งไม่นานมานี้เธอเองได้เห็นห้องแชตนั้นผ่านทางแหล่งข่าว ทำให้มั่นใจในข้อมูลที่เคยได้รับมา และในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจึงต้องการจะรายงานข่าวนี้และสืบไปให้ถึงต้นตอ

 

“ความจริงก็คือคนเหล่านี้ชักชวนนักศึกษาสาวจากมหาวิทยาลัยและคนดังๆ มาร่วมดื่มเพื่อจะมีเพศสัมพันธ์ในแบบ One Night Stand และแอบถ่ายวิดีโอพวกเธอเอาไว้ นี่คือเรื่องที่ฉันช็อกมาก พวกเธอเป็นเด็กสาวในวัย 20 ปีที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกถ่ายวิดีโอเก็บไว้ และคลิปวิดีโอเหล่านั้นถูกแชร์ไปในห้องแชต แชร์ไปจนถึงคนที่ไม่เคยได้รู้จักกันมาก่อน ทั้งยังอาจใช้เป็นสิ่งแบล็กเมลหญิงสาวเหล่านั้น พวกเธอช็อก กลัว ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป และได้ร้องขอให้ฉันช่วยพวกเธอด้วย”

 

ความจริงที่น่ากลัวอีกข้อซึ่งคังคยองยุนพบคือผู้ชายเหล่านี้ถ่ายคลิปวิดีโอผิดกฎหมายโดยมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของเกม เช่น ถ้าพวกเขาเห็นศิลปินหญิงหน้าใหม่ทางทีวีหรือเพิ่งเข้าสังกัด พวกเขาจะพูดทำนองว่า “เธอน่ารักมาก นายควรจะชวนเธอมาดื่มกับพวกเรานะ”

 

โดยคังคยองยุนได้สรุปแผนการรายงานข่าวต่อจากนี้ไว้ว่า “คดี Burning Sun เกี่ยวข้องกับเรื่องร้ายแรงทั้งยาเสพติด การซ่อนกล้อง การใช้เส้นสายกับตำรวจ และอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการสืบสวนต่อไปในอนาคต

 

“แต่จุดสูงสุดของปัญหานี้คือการที่ศิลปินชายล่วงละเมิดทางเพศ แอบถ่ายคลิปวิดีโอผู้หญิง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่จากการที่ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นเพียงวัตถุทางเพศ และคนบางกลุ่มได้บิดเบือนมุมมองเรื่องเพศไปจากที่มันควรจะเป็น รวมทั้งการใช้อำนาจอันมิชอบในอุตสาหกรรมบันเทิงอีกด้วย ทุกวันนี้ศิลปินจากเกาหลีมีอำนาจมากขึ้นทั้งจากชื่อเสียงและความนิยม ด้วยเหตุผลนี้ฉันคิดว่าเราไม่ควรเพิกเฉยต่อความผิดที่เกิดขึ้นเพียงเพราะว่าพวกเขาเป็นศิลปิน”

 

คลิปสัมภาษณ์คังคยองยุนฉบับเต็ม 

 

อ้างอิง:

 

seungri

Photo: YG Official

ซึงรี

 

ซึงรี วง BIGBANG

ซึงรี หนึ่งในสมาชิกวง BIGBANG อายุ 28 ปี ที่มีกำหนดเข้ากรมรับใช้ชาติในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ล่าสุด ทางกองทัพประกาศเลื่อนวันเข้ากรมรับใช้ชาติของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนคดีความต่อไป

 

จุดเริ่มต้นของความอื้อฉาวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2019 จากข่าวที่ทาง MBC รายงานว่าพนักงานของคลับ Burning Sun ทำร้ายร่างกายผู้ใช้บริการ (ซึ่งซึงรีเป็นหุ้นส่วน) พยานผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่าเขาเห็นผู้หญิงถูกกระทำทางเพศ จึงได้ขอร้องให้การ์ดเข้าช่วยเหลือ แต่กลับถูกการ์ดของคลับรุมทำร้ายแทน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ไนต์คลับถูกสืบสวนในกรณียาเสพติดและการใช้ความรุนแรงทางเพศ นำมาซึ่งคำสั่งปิดให้บริการไนต์คลับ Burning Sun ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์

 

27 กุมภาพันธ์ 2019 ตำรวจได้เรียกตัวซึงรีเข้าให้ปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมงเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดและการจัดหาเพื่อค้าประเวณีให้กับสมาชิกระดับวีไอพีของไนต์คลับ Burning Sun ตามหลักฐานที่ทางสถานี SBS funE รายงานบันทึกสนทนาระหว่างซึงรีและ ซีอีโอยู จากยูริโฮลด์ดิ้ง โดยซึงรีกล่าวว่าเขาจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอโทษต้นสังกัด YG Entertainment สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ รวมทั้งยกเลิกคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

10 มีนาคม 2019 ตำรวจได้ยกระดับให้ซึงรีเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีจัดหาและค้าประเวณีให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติในคลับของเขา นำมาสู่ข่าวใหญ่ในวันถัดมา 11 มีนาคม 2019 เมื่อซึงรีประกาศผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าขอลาออกจากวงการบันเทิง

 

12 มีนาคม 2019 สถานี SBS funE เปิดเผยหลักฐานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับกรุ๊ปแชตใน KakaoTalk ที่แสดงให้เห็นว่ามีการส่งต่อข้อความรวมถึงคลิปอื้อฉาวทางเพศ ซึ่งสมาชิกในกรุ๊ปจำนวน 8 คนนั้น นอกจากซึงรีแล้วยังมีศิลปินในวงการเคป๊อปอีกหลายคน

 

14 มีนาคม 2019 ซึงรีเข้าสอบสวนนาน 16 ชั่วโมงที่สำนักงานตำรวจโซล จากนั้นในวันที่ 15 มีนาคม 2019 ข่าวค่ำของสถานี MBN ได้รายงานชื่อ 8 บุคคลที่อยู่ในกรุ๊ปแชต ประกอบด้วย ซึงรี วง BIGBANG, จองจุนยอง ศิลปินเดี่ยว, ชเวจงฮุน วง FTISLAND, ซีอีโอยู ยูริโฮลด์ดิ้ง, คิม ผู้อำนวยการคลับ Burning Sun และอีก 3 คนที่เป็นคนรู้จักและอดีตพนักงาน

 

ล่าสุดมีการเปิดเผยแชตสนทนาในปี 2016 ระหว่างซึงรีกับอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับการติดสินบนเจ้าพนักงาน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วคงต้องรอติดตามว่าซึงรีจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีใดอีกบ้าง และนี่คือครั้งสำคัญที่มีการเปิดเผยให้เห็นด้านมืดของไอดอลชื่อดัง

 

อ้างอิง:

 

seungri

Photo: @sun4finger /Instagram

จองจุนยอง

 

จองจุนยอง

จองจุนยอง ศิลปินเดี่ยวและนักร้องนำวงร็อก Drug Restaurant เริ่มเป็นที่รู้จักจากการคว้าอันดับ 3 ในรายการเรียลิตี้ Superstar K4 ในปี 2012 ก่อนที่เขาจะกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการเป็นสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุดของรายการเรียลิตี้ชื่อดัง 2 Days & 1 Night ซีซัน 3 ทางช่อง KBS

 

จองจุนยองกลายเป็นประเด็นร้อนของสังคมเกาหลีตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2019 จากการรายงานข่าวของรายการ 8 O’Clock News ช่อง SBS ซึ่งรายงานว่าจองจุนยองคือหนึ่งในสมาชิกของกรุ๊ปแชตฉาวในปี 2015 ที่ส่งต่อคลิปวิดีโอการมีเพศสัมพันธ์จากการซ่อนกล้องให้กับสมาชิกในกรุ๊ป โดย SBS ยืนยันว่ามีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อร่วม 10 คนจากการกระทำดังกล่าว

 

จองจุนยองซึ่งในขณะนั้นกำลังถ่ายรายการวาไรตี้อยู่ที่สหรัฐอเมริกาและกำลังเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ต้องเผชิญกับมรสุมครั้งใหญ่ เมื่อรายการ 2 Days & 1 Night จากช่อง KBS, รายการ Salty Tour และ 4 Wheeled Restaurant จากช่อง tvN พร้อมใจกันประกาศปลดเขาออกจากการเป็นสมาชิกของรายการในวันที่ 12 มีนาคม 2019

 

ก่อนที่ Dispatch จะรายงานข่าวเพิ่มเติมว่าจองจุนยองได้ทำการส่งต่อคลิปผ่านห้องแชตแบบกลุ่มและส่วนตัวมากกว่า 10 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปแชตของจองจุนยองถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กรุ๊ปแรกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ซึ่งมีคนรู้จักของซึงรีรวมอยู่ในกรุ๊ป ในขณะที่อีกกรุ๊ปเป็นกลุ่มเพื่อนของเขาซึ่งไม่ได้สนิทกับซึงรี โดยรายงานระบุว่า คิม (ผู้อำนวยการคลับ Burning Sun) ร่วมมือกับจองจุนยองในการแอบถ่ายและส่งต่อคลิปมากกว่า 10 ครั้งในระยะเวลา 10 เดือน

 

เวลาต่อมา รายการ 8 O’Clock News ได้เปิดเผยบทสนทนาเพิ่มเติมของกรุ๊ปแชตฉาว ซึ่งจองจุนยอง คิม และนักร้องชเว มีการพูดคุยถึงการแอบถ่ายและการใช้ยานอนหลับกับผู้หญิงก่อนข่มขืน

 

หลังจากจองจุนยองเดินทางกลับมาถึงเกาหลีใต้ในวันที่ 13 มีนาคม 2019 เขาได้เขียนจดหมายขอโทษและยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประกาศยุติบทบาทในวงการบันเทิง โดยระบุว่า “ผมขอยอมรับผิดต่อทุกการกระทำของผม ผมได้ถ่ายคลิปผู้หญิงหลายคนโดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเธอและส่งต่อไปในห้องแชต โดยที่ตัวผมในตอนนั้นไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด

 

“ผมขอถอนตัวออกจากรายการทั้งหมดที่ผมเข้าร่วม และขอยุติบทบาททั้งหมดของผมในวงการบันเทิง โดยจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตไปกับการทบทวนความผิดของผมครับ”

 

ก่อนที่ในเวลาต่อมา MAKE US Entertainment ต้นสังกัดของจองจุนยอง จะออกแถลงการณ์ยกเลิกสัญญาระหว่างบริษัทและจองจุนยอง โดยระบุว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทไม่สามารถรักษาสัญญาระหว่างเราและจองจุนยองได้อีกต่อไป จึงขอยกเลิกสัญญาของจองจุนยอง ณ วันที่ 13 มีนาคม 2019 และเราขอแสดงความเสียใจอีกครั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

 

14 มีนาคม 2019 จองจุนยองเข้ารับการสอบสวนและให้ปากคำ ใช้เวลาไปทั้งหมด 21 ชั่วโมงในการสอบสวนรอบแรก และเขาได้ส่งมอบโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่องให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป

 

16 มีนาคม 2019 จองจุนยองยังคงเจอมรสุมอย่างต่อเนื่อง เมื่อรายการข่าว KBS News 9 เปิดเผยว่าเขาเคยใช้บริการจากหญิงโสเภณี ซึ่ง ยูอินซอก อดีตซีอีโอของบริษัท ยูริโฮลด์ดิ้งเป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งอาจทำให้เขาถูกสอบสวนกรณีการค้าประเวณีเพิ่มเติมต่อจากนี้

 

เบื้องต้น ทนายโอซูจิน อธิบายผ่านรายการ Section TV ว่า “ความผิดของจองจุนยองต่อกรณีถ่ายคลิปและส่งต่อนั้นอาจทำให้เขาต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี แต่ถ้าเขามีส่วนร่วมในการค้าประเวณีจะทำให้เขาต้องโทษจำคุกสูงถึง 7 ปี 6 เดือน”

 

ล่าสุด 21 มีนาคม 2019 จองจุนยอง ถูกจับกุมตัวเรียบร้อยแล้ว โดยเขาเป็นเซเลบริตี้คนแรกที่ถูกจับจากการณีซ่อนกล้องแอบถ่ายและส่งต่อคลิปวิดีโอ 

 

อ้างอิง:

 

seungri

Photo: FNC Entertainment

ชเวจงฮุน

 

ชเวจงฮุน วง FTISLAND

ชเวจงฮุน มือกีตาร์และหัวหน้าวง FTISLAND ซึ่งมีกำหนดเข้ากรมรับใช้ชาติในเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่ประกาศยุติบทบาทในวงการบันเทิง และเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนจากกรณีกรุ๊ปแชตฉาวและคดีเมาแล้วขับ

 

หลังจากรายการ 8 O’Clock News ช่อง SBS เปิดเผยบทสนทนาเพิ่มเติมของกรุ๊ปแชตฉาวในวันที่ 12 มีนาคม 2019 ซึ่งมีจองจุนยอง คิม และนักร้องชเว ร่วมอยู่ในบทสนทนานั้น ทำให้ชาวเน็ตเกาหลีคาดเดาว่า ‘นักร้องชเว’ นั้นหมายถึงชเวจงฮุน วง FTISLAND

 

จากกระแสดังกล่าวทำให้ FNC Entertainment ต้นสังกัดของชเวจงฮุน ออกแถลงการณ์ระบุว่า “ชเวจงฮุน ศิลปินในสังกัดของเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเขาไม่ได้เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว”

 

หลังจากปล่อยแถลงการณ์ได้ไม่นาน วันที่ 13 มีนาคม 2019 รายการ 8 O’Clock News ยังคงเดินหน้าเปิดเผยข้อความในกรุ๊ปแชตอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้เป็นบทสนทนาระหว่างซึงรี จองจุนยอง และชเวจงฮุน ถึงเหตุการณ์เมาแล้วขับของชเวจงฮุนในปี 2016 ซึ่งมีการพูดถึงการได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อปกปิดความผิดของเขาในครั้งนี้

 

ทำให้ FNC Entertainment ต้องออกแถลงการณ์อีกครั้งถึงกรณีเมาแล้วขับของชเวจงฮุน ในปี 2016 ว่า “หลังจากตรวจสอบกับชเวจงฮุน เราได้รับการยืนยันว่าเขาถูกตำรวจย่านอิแทวอนจับเนื่องจากเมาแล้วขับในปี 2016 และได้จ่ายค่าปรับจำนวน 2.5 ล้านวอน พร้อมกับถูกระงับใบขับขี่ชั่วคราวเป็นเวลา 100 วัน

 

“เราเพิ่งทราบเรื่องนี้หลังจากที่ตรวจสอบกับเขาเป็นการส่วนตัว โดยเขาจะยุติกิจกรรมเดี่ยวและกิจกรรมในฐานะสมาชิกวง FTISLAND จนกว่ากระบวนการสืบสวนจะสิ้นสุดลง”

 

14 มีนาคม 2019 ชเวจงฮุนประกาศลาออกจากวงการบันเทิงและยุติบทบาททั้งหมดกับวง FTISLAND ก่อนเขียนจดหมายขอโทษต่อเหตุการณ์เมาแล้วขับ, การติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ, คลิปแอบถ่ายที่ผิดกฎหมาย และการส่งต่อคลิปวิดีโอในกรุ๊ปแชต โดยมีใจความสำคัญว่า “ผมรู้สึกละอายต่อตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ผมเป็นหัวหน้าวง FTISLAND แต่ผมกลับทำตัวน่ารังเกียจ และสำหรับแฟนๆ (Primadonna) ที่สนับสนุนผมมาจนถึงตอนนี้ ผมขอโทษที่ทรยศความไว้ใจที่ทุกคนมีให้กับผม ผมจะลาออกจากวง FTISLAND และวงการบันเทิง โดยจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยการทบทวนอดีตที่ผ่านมาของผม ซึ่งผมใช้ชีวิตอย่างประมาทและไร้ความสำนึกผิด ผมจะให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่โดยไม่มีการปิดบังใดๆ และผมจะยอมรับการลงโทษจากความผิดที่ผมได้กระทำลงไป ผมขอโทษครับ”

 

ล่าสุดชเวจงฮุนได้เดินทางไปให้ปากคำที่สำนักงานตำรวจกรุงโซลแล้วในวันที่ 16 มีนาคม 2019 และ FNC Entertainment ก็ได้ถอดรายชื่อของเขาออกจากการเป็นสมาชิกวง FTISLAND บนหน้าเว็บไซต์ออฟฟิเชียลแล้ว โดยทนาย คิมยองจู อธิบายผ่านรายการของ SBS ว่า “การส่งต่อคลิปวิดีโอนั้นมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 3 ปี แต่ถ้าหาก ชเวจงฮุน เป็นผู้ถ่ายคลิปด้วย จะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี”

 

อ้างอิง:

 

seungri

Photo: Around US Entertainment

ยงจุนฮยอง

 

ยงจุนฮยอง วง Highlight

ยงจุนฮยอง แรปเปอร์และนักแต่งเพลง หนึ่งในสมาชิกวง BEAST จากค่าย Cube Entertainment ซึ่งหลังจากสิ้นสุดสัญญา พวกเขาออกมาตั้งเอเจนซีของตัวเองในนาม Around US Entertainment และเดบิวต์ใหม่อีกครั้งในฐานะวง Highlight เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีกรุ๊ปแชตฉาว

 

ถึงแม้ว่ายงจุนฮยองจะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้ร่วมอยู่ในกรุ๊ปแชตดังกล่าว แต่เขาก็ออกมายอมรับว่าเขาเคยได้รับคลิปในแชตส่วนตัวจากจองจุนยองจริง ทำให้ในวันที่ 14 มีนาคม 2019 ยงจุนฮยองแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการลาออกจากวง Highlight โดยเขายินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจและเป็นพยานในคดีนี้อย่างเต็มที่ (อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มของยงจุนฮยอง)

 

โดย Around US Entertainment ต้นสังกัดของยงจุนฮยอง ออกแถลงการณ์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “ยงจุนฮยองได้ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับการสืบสวนอย่างเต็มที่ โดยเขาจะรับผิดชอบด้วยการลาออกจากวง Highlight ในวันที่ 14 มีนาคม 2019 เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของวงและความเสียหายต่างๆ ที่อาจจะตามมา

 

“เราขอโทษจากใจจริงที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดก่อน และก่อให้เกิดความสับสนต่อผู้คนจำนวนมาก เราจะระมัดระวังให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีกในอนาคต และเราต้องขอโทษแฟนๆ ที่ห่วงใยวง Highlight จากใจจริงอีกครั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

 

อ้างอิง:

 

seungri

Photo: FNC Entertainment

อีจงฮยอน

 

อีจงฮยอน วง CNBLUE

อีจงฮยอน มือกีตาร์วง CNBLUE ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติอยู่ในขณะนี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเขาถูกสงสัยว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกกรุ๊ปแชตฉาวในวันที่ 12 มีนาคม 2019

 

ทำให้ต้นสังกัดของเขาอย่าง FNC Entertainment ออกแถลงการณ์ว่า “อีจงฮยอน ศิลปินในสังกัดของเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างอีจงฮยอนและจองจุนยองเป็นเพียงคนสองคนที่รู้จักและติดต่อกันมานานเท่านั้น และเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”

 

ก่อนที่รายการข่าว 8 O’Clock News จะเปิดเผยบทสนทนาระหว่างจองจุนยองและอีจงฮยอนผ่านห้องแชตส่วนตัวในวันที่ 14 มีนาคม 2019 ซึ่งทั้งสองคนพูดคุยโอ้อวดกันถึงความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงสาวที่เคยร่วมหลับนอนราวกับว่าพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทางเพศ

 

15 มีนาคม 2019 FNC Entertainment ต้นสังกัดของอีจงฮยอน ออกแถลงการณ์ว่า “ในวันที่ 12 มีนาคม 2019 ที่เราออกแถลงการณ์เกี่ยวกับอีจงฮยอนว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแชตของจองจุนยองนั้น อีจงฮยอนซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติอยู่ในตอนนี้ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปถึงหน่วยของเขา ซึ่ง ณ เวลานั้นพวกเขาไม่พบคลิปหรือบทสนทนาที่เข้าข่าย

 

“อีจงฮยอนได้ออกจากห้องแชตด้วยตัวเองมานานมากแล้ว จึงทำให้การยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบทสนทนาใน KakaoTalk เมื่อ 4-5 ปีก่อนเป็นไปได้ยาก ดังนั้นเราจึงออกแถลงการณ์ตามคำบอกเล่าจากความทรงจำของอีจงฮยอน โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดความจริงหรือการกระทำผิดที่เกิดขึ้น

 

“หลังจาก SBS รายงานข่าวเมื่อวันที่ 14 มีนาคม เราได้ติดต่อกับอีจงฮยอนเพื่อยืนยันความจริง เขาได้ใคร่ครวญและรับรู้ว่าการกระทำของเขาสมควรได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากเขาได้ดูคลิปวิดีโอผ่าน KakaoTalk และมีบทสนทนาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งทำให้ผู้หญิงเสื่อมเสียชื่อเสียงตามการรายงานดังกล่าวจริง เขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ และขอโทษจากใจจริงสำหรับผู้ที่ได้รับความเจ็บปวดจากบทสนทนาที่ไม่เหมาะสมของเขาซึ่งทำลงไปโดยไม่มีจิตสำนึก และขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเขา”

 

ซึ่งหลังจาก SBS ได้เผยแพร่รายงานดังกล่าว ทำให้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดบนโลกอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับอีจงฮยอนในกรณีล่วงละเมิดทางเพศขึ้น โดย FNC Entertainment ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าวแล้วว่าไม่เป็นความจริง และจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับคนที่ปล่อยข่าวเท็จทางอินเทอร์เน็ตต่อไป

 

อ้างอิง:

 

ภาพประกอบ: Peakoonnang B.

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X