×

บุรีรัมย์ มาราธอน 2019 เตรียมผลักดันสู่งานวิ่งระดับบรอนซ์ เลเบิล

14.09.2018
  • LOADING...

นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด  พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และ พลเอก หม่อมหลวงประสบชัย เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปนายกอาวุโส สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ว่าที่ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าว ‘บุรีรัมย์ มาราธอน 2019’ งานวิ่งมาตรฐานระดับสากล ภายใต้คอนเซปต์ ‘Your Ultimate Destination – สวรรค์ของนักวิ่ง’ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,650,000 บาท ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยจะชิงชัยในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

 

นายเนวินได้เปิดเผยว่า เป้าหมายคือการยกระดับงานวิ่งบุรีรัมย์ มาราธอน สู่ระดับโลกภายในเวลา 4 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่จัดการแข่งขันมา บุรีรัมย์ มาราธอน มีพัฒนาการในการจัดงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงจำนวนนักวิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากปีแรก 7,000 คน และปีที่ 2 13,000 คน อีกทั้งมีนักวิ่งอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ร่วมงานเนื่องจากโควตาเต็ม ดังนั้นในปีที่ 3 นี้ ทางฝ่ายจัดงานจึงได้ขยายโควตานักวิ่งเพิ่มเป็น 20,000 คน นอกจากนี้ยังได้เตรียมผลักดันบุรีรัมย์ มาราธอนสู่การแข่งขันในระดับบรอนซ์ เลเบิล

 

“สำคัญที่สุดก็คือเราอยากเชิญชวนนักวิ่งทุกคนมาร่วมจารึกประวัติศาสตร์และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันบุรีรัมย์ มาราธอน สู่ระดับโลก เพราะหลังจบการแข่งขันปีนี้ เราจะยื่นเรื่องต่อสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) ขอรับรองมาตรฐานให้บุรีรัมย์ มาราธอน เป็นงานวิ่งระดับบรอนซ์ เลเบิล ก่อนก้าวสู่ระดับซิลเวอร์และโกลด์ตามเป้าหมายใหญ่ที่เราตั้งใจไว้ต่อไป”

 

นอกจากนี้นายเนวินยังเผยว่า ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้เตรียมแคมป์ ซึ่งเป็นเต็นท์ที่พักบุคคลภายในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับนักวิ่งเพิ่มขึ้นอีก 3-4 พันคน

 

“เราการันตีว่าปีนี้นักวิ่งทุกคนจะมีที่พักแน่นอน เพราะนอกจากเต็นท์ที่พักบริเวณสนามกีฬาเขากระโดงสเตเดียม ที่ทาง อบจ. บุรีรัมย์ จัดเตรียมไว้ให้แล้ว ปีนี้เรายังมีเต็นท์ให้บริการเพิ่มภายในสนามช้างฯ ด้วยเช่นกัน

 

“โดยนักวิ่งจะเสียค่าใช้จ่ายเพียงค่าน้ำและค่าทำความสะอาดเท่านั้น ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าลงสมัครร่วมวิ่งแล้วจะหาที่พักไม่ได้ เราอยากแสดงให้เห็นว่าบุรีรัมย์ มาราธอน ไม่ใช่เป็นเพียงสวรรค์ของนักวิ่งอย่างเดียว แต่เรายังใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับนักวิ่งที่สามารถชนะตัวเองได้ จากรางวัลพิเศษที่เรามีให้กับนักวิ่งที่สามารถทำลายสถิติตัวเอง และนักวิ่งที่ยกระดับระยะทางการวิ่งเพิ่มมากขึ้นจากครั้งก่อน”

 

สำหรับงานวิ่ง ‘บุรีรัมย์ มาราธอน 2019’ รับรองการจัดการแข่งขันโดยสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) สหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย (AAA) สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (AAT) มีเส้นทางวิ่งผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์  และเส้นทางธรรมชาติ พร้อมเสียงเชียร์ให้กำลังใจจากชาวท้องถิ่นทุก 500 เมตร บนความปลอดภัยสูงสุด

 

ตามมาตรฐานสากลด้วยการปิดการจราจร 100% พร้อมด้วยจุดปฐมพยาบาลตลอดเส้นทางถึง 29 จุด และรถพยาบาลคอยเตรียมพร้อมให้บริการอีก 24 คัน ออกสตาร์ทที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถระดับโลกที่เตรียมจัดการแข่งขันโมโตจีพี 2018 วิ่งผ่านสันเขื่อนห้วยจรเข้มาก, สนามฟุตบอลช้างอารีนา, พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, บ้านเรือนและร้านค้ากลางเมือง, วัดกลางพระอารามหลวง, สวนสาธารณะ, โรงเรียนอนุบาลธีราและศาลากลางจังหวัด (หลังเดิม) ก่อนเข้าเส้ยชัยที่บุรีรัมย์ คาสเซิล

 

สำหรับการจัดอันดับงานวิ่งของสหพันธ์กรีฑานานาชาติแบ่งออกเป็น 3 ระดับสูงสุดคือ โกลด์ เลเบิล ตามด้วย ซิลเวอร์ และ บรอนซ์

 

ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขันจะต้องผ่านมาตรฐานของการจัดงานจาก IAAF ตั้งแต่มีผู้เข้าร่วมแข่งขันอย่างน้อยจาก 5 ประเทศ (4 สำหรับบรอนซ์) และต้องสามารถทำเวลาได้เร็วกว่าเวลาที่ IAAF Guideline กำหนด

 

นอกจากนี้เส้นทางแข่งขันต้องมีการปิดการจราจร มีการใช้เครื่องมือบันทึกเวลาการแข่งขัน รวมถึงเส้นทางการแข่งขันต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องมีการสุ่มตรวจสารกระตุ้น และสุดท้ายเงินรางวัลสำหรับผู้เข้าแข่งขันต้องเท่าเทียมกันไม่ว่าจะสำหรับเพศหรือชาติที่เข้าร่วมแข่งขัน แต่สามารถมอบรางวัลเพิ่มเติมให้กับนักวิ่งจากประเทศเจ้าภาพได้

 

โดยปัจจุบันในประเทศไทยมีมาราธอนเพียงรายการเดียวที่ได้รับบรอนซ์ เลเบิล คือ บางแสน 21 มาราธอน ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบฮาล์ฟ มาราธอน 21 กิโลเมตร ที่บางแสน จังหวัดชลบุรี

 

สำหรับบุรีรัมย์ มาราธอน เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2561 เป็นต้นไป โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 4 ระยะทาง ประกอบด้วย มาราธอน 42.195 กม. (ค่าสมัคร 800 บาท), ฮาล์ฟ มาราธอน 21.1 กม. (ค่าสมัคร 600 บาท), มินิ มาราธอน 10 กม. (ค่าสมัคร 400 บาท) และฟันรัน 7 กม. (ค่าสมัคร 300 บาท) นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จ่ายค่าสมัครครึ่งราคา และผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปไม่เสียค่าสมัคร สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ‭www.burirammarathon.com ‬ และ ‭www.facebook.com/bru.marathon

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising