วันนี้ (11 เมษายน) เวลา 16:10 น. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ และ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้สูญหายจากเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม พร้อมระบุว่า จากการลงพื้นที่พูดคุยกับญาติ โดยศุภณัฐนำข้าวสารอาหารแห้ง และสิ่งของมาช่วยสนับสนุนภารกิจของสำนักงานเขตจตุจักร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่มีอะไรขาดเหลือ และญาติผู้สูญหายก็มีกำลังใจดี ทุกคนยังมีความหวังทุกวินาทีที่เจ้าหน้าที่ทำงาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน จะมีการติดตามเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ณัฐพงษ์กล่าวว่า ตอนนี้มีการนำเรื่องเข้ากรรมาธิการติดตามงบประมาณแล้ว และตั้งคณะทำงานขึ้นมาในทุกด้านเพื่อติดตามภารกิจ โดยมี สส. ในพื้นที่ติดตามและกำกับดูแล
ด้านวิโรจน์กล่าวเสริมว่า ตนคิดว่าในเรื่องของการตรวจสอบเท่าที่ได้หารือกับ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการติดตามตรวจสอบงบประมาณ คงต้องแกะรอยจาก 3 องค์ประกอบ คือ การออกแบบ การควบคุมงาน และการตรวจรับงาน
ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ทำงานโดยวิศวกรที่เป็นผู้มีวิชาชีพทั้งสิ้น โดยสำคัญที่สุดคือการตรวจรับงาน เพราะหากมีการแก้ไขแบบ วิศวกรผู้ควบคุมก็จะเป็นผู้ประสานกับคณะกรรมการตรวจรับงานของ สตง. และวิศวกรผู้ควบคุมงานจะต้องตรวจสอบในรายละเอียดทั้ง 3 ส่วนอย่างละเอียด ส่วนอีกเรื่องที่ไม่สามารถทิ้งประเด็นได้คือคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จากการชี้แจงของ สตง. พรรคฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง วิโรจน์ระบุว่า เป็นการชี้แจงในเบื้องต้น การทดสอบปกติแล้วรายละเอียดในการตรวจสอบเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงไม่พออยู่แล้ว เพียงแต่เป็นการชี้แจงให้กับคณะกรรมาธิการฯ แกะรอยทำเป็น Bullet Point เพื่อทำการบ้านที่ต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีอะไรบ้าง เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบ เช่น เรื่องเหล็ก ว่าแต่ละประเภทใช้กับงานชนิดไหน หรือผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ก็จะส่งผลเสียได้เหมือนกัน ซึ่งสุรเชษฐ์เป็นวิศวกรโยธาฯ น่าจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด
วิโรจน์กล่าวอีกว่า เราพูดถึงวิศวกรควบคุมงานน้อยมาก ว่ามีการเปลี่ยนวัสดุหรือไม่ ซึ่งคนที่ควบคุมสามารถเป็นต้นเรื่องในการเปลี่ยนแบบและวัสดุได้ และส่วนที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบความโยงใยถึงคนใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงและผู้ใหญ่ใน สตง.
“มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า วิศวกรผู้ควบคุมมีความสัมพันธ์เรียกว่าเป็นคนตัวใหญ่ใน สตง. เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างประธาน คตง. และเราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ว่าบริษัทที่ปรึกษามีความเกี่ยวข้องโยงใยกับเครือข่ายครอบครัวตามที่ถูกตั้งข้อสังเกตหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม” วิโรจน์กล่าว
ส่วนการชี้แจงของ สตง. ยังเหลือประเด็นใดบ้าง วิโรจน์ระบุว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่โยงใยกับบริษัทต่างๆ และการประกวดราคาประมูลถูกต้องหรือไม่ รวมถึงมีการเกี่ยวพันกับผู้บริหารระดับสูงของ สตง. ด้วยหรือไม่ ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และในเรื่องนี้เราไม่สามารถปล่อยให้คลุมเครือได้ เพราะหากบริษัทที่ปรึกษามีความเกี่ยวข้องกับประธาน คตง. ก็จะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบให้สิ้นข้อสงสัยเพื่อความเป็นธรรมให้กับท่าน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สำหรับการเยียวยาญาติผู้สูญหายที่ได้รับเงินน้อยมาก หากเทียบเท่ากับเก้าอี้ของ สตง. 1 ตัวนั้น ณัฐพงษ์กล่าวว่า ต้องบอกก่อนว่าไม่ว่าเงินจะจำนวนเท่าไรก็ไม่สามารถเทียบชีวิตที่สูญเสียและได้รับผลกระทบ โดยจากการไปเยี่ยมญาติผู้สูญหายมาก็ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านได้ใช้กลไกกรรมาธิการฯ รวมถึงการติดตามสอบถามไปถึงรัฐบาลว่า จะเยียวยาได้เร็วที่สุด และเป็นธรรมที่สุด
อีกส่วนที่อาจยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งตนได้รับการรายงานจากศุภณัฐว่า ถ้าเป็นแรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศเราและได้รับผลกระทบ และแรงงานต่างชาติก็อาจจะยังไม่ได้รับเงินชดเชยเยียวยา ก็เป็นสิ่งที่เรากำลังหาคำตอบ ซึ่งเรามีคณะกรรมการดูแลเงินชดเชยเยียวยาของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
โดยเฉพาะในประเด็นที่วิโรจน์ได้บอกไว้ หากพบว่ามีการตรวจสอบข้อมูลแล้ว การก่อสร้างไม่เป็นไปตามมาตรฐานและสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ไม่สามารถป้องกันได้ และเป็นเรื่องที่สังคมตั้งคำถามอยู่ เหตุการณ์ต่างๆ และความสะเพร่าในการออกแบบก่อสร้าง ทุกคนก็ควรจะได้รับการเยียวยาในรูปแบบที่เหมาะสม
ส่วนสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรคประชาชน พร้อมที่จะสนับสนุน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้วยหรือไม่ ณัฐพงษ์ระบุว่า ถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเราไม่ได้ขัดข้องหรือคัดค้านอะไรอยู่แล้ว
