วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนมหาเศรษฐีวัย 95 ปี ผู้เป็นดั่งสัญลักษณ์ของตลาดทุนโลกและเป็นผู้ปั้น Berkshire Hathaway ให้กลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่จะเป็นการสิ้นสุดยุคสมัยของ “เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา” อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าเขากำลัง “จะเงียบลง” (Going Quiet)
ในจดหมายที่เปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 พฤศจิกายน) บัฟเฟตต์ได้แจ้งถึงการบริจาคเงินครั้งล่าสุดมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ ให้กับมูลนิธิของครอบครัว 4 แห่ง พร้อมทั้งประกาศว่า เขาจะหยุดเขียนจดหมายประจำปีถึงผู้ถือหุ้น และหยุดพูดในที่ประชุมประจำปีของบริษัท ที่นักลงทุนทั่วโลกต่างเฝ้ารอเพื่อศึกษาแนวคิดการลงทุนของเขามาตลอดหลายทศวรรษ
การประกาศครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในกระบวนการส่งมอบอำนาจต่อจาก เกร็ก เอเบล วัย 63 ปี ซึ่งบัฟเฟตต์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเข้ามารับตำแหน่ง CEO ต่อจากเขาในช่วงสิ้นปีนี้
แม้บัฟเฟตต์จะระบุในจดหมายว่าเขายังคงรู้สึกสบายดีและยังคงเข้าออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์ แต่เขาก็ยอมรับว่าเคลื่อนไหวช้าลงและอ่านหนังสือได้ยากลำบากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เขาจึงวางแผนที่จะเร่งบริจาคทรัพย์สมบัติของเขาให้กับมูลนิธิของลูกๆ ทั้งสามคน (ซูซี่, โฮเวิร์ด และปีเตอร์) ในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่
บัฟเฟตต์ให้เหตุผลว่า ลูกๆ ของเขาซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 60 และ 70 ปีแล้ว ต่างก็มีทั้งวุฒิภาวะ, สติปัญญา และสัญชาตญาณในการบริหารจัดการทรัพย์สมบัติก้อนโตนี้ และจะเป็นความผิดพลาดหากจะเดิมพันว่าพวกเขาทุกคนจะมีโชคเรื่องอายุขัยที่ยืนยาวเช่นเดียวกับเขา
“พวกเขายังจะมีข้อได้เปรียบในการที่ยังอยู่บนโลกนี้เมื่อผมจากไปนานแล้ว และหากจำเป็น พวกเขาสามารถปรับใช้นโยบายที่ทั้งเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าและเป็นการตอบสนองต่อนโยบายภาษีของรัฐบาลกลาง หรือการพัฒนาอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการกุศลได้” บัฟเฟตต์กล่าว
เชื่อมั่นใน ‘เกร็ก เอเบล’ เต็มร้อย
แม้จะก้าวลงจากตำแหน่ง CEO และยุติการสื่อสารสาธารณะในฐานะผู้นำ แต่บัฟเฟตต์จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการต่อไป และเขายังได้ย้ำถึงความไว้วางใจอย่างเต็มเปี่ยมที่มีต่อ เกร็ก เอเบล ผู้สืบทอดตำแหน่ง
“ผมนึกถึง CEO, ที่ปรึกษาด้านการจัดการ, นักวิชาการ, สมาชิกรัฐบาล ที่ผมจะเลือกมาแทนเกร็กในการจัดการเงินออมของคุณและของผมไม่ออกเลย” บัฟเฟตต์เขียนในจดหมาย และยังระบุด้วยว่า “ลูกๆ ของผมสนับสนุนเกร็ก 100% แล้ว เช่นเดียวกับกรรมการของ Berkshire”
อ้างอิง:


