×

รัฐบาลจัดงบฯ หนุนวิจัยวัคซีนโควิด-19 รวม 2.8 พันล้านบาท หวังไทยเป็นศูนย์กลางพัฒนาและผลิตของภูมิภาค

โดย THE STANDARD TEAM
05.06.2021
  • LOADING...
วิจัยวัคซีนโควิด-19

วันนี้ (5 มิถุนายน) อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนให้คนไทยมีศักยภาพในการคิดค้นและผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้เอง จึงได้จัดสรรงบประมาณกว่า 2,806 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศ และสำหรับเป็นทุนหนุนในการเพิ่มศักยภาพประเทศของไทย 

 

ทั้งนี้ เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันและการระบาดของโรคอุบัติใหม่ในอนาคต รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณวงเงินกว่า 1,810 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 เพื่อเป็นทุนในการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศ ตั้งแต่การพัฒนาวัคซีนต้นแบบตั้งแต่ต้นน้ำ การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีน รวมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการผลิตวัคซีน 

 

โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวเป็นทุนสนับสนุนการวิจัยให้แก่หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ได้แก่ 

 

– บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด (650 ล้านบาท) เพื่อการพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด-19 ชนิด DNA สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (200 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ต้นแบบที่พร้อมทดสอบทางคลินิกและการเตรียมพร้อมผลิตวัคซีนต้นแบบสำหรับการระบาดของเชื้อที่มีการกลายพันธุ์

 

– บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด (160 ล้านบาท) เพื่อการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศ โดยใช้พืชเป็นแหล่งผลิตในมนุษย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (562 ล้านบาท) เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นสถานที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ตามความต้องการของประเทศ โดยใช้โรงงานต้นแบบผลิตยาชีววัตถุแห่งชาติ และพัฒนาห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง ด้านการวิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติของยาชีววัตถุและวัคซีนรองรับการผลิตวัคซีนโควิด-19 ขึ้นใช้เองในประเทศ

 

– องค์การเภสัชกรรม (156.8 ล้านบาท) เพื่อเตรียมความพร้อมการแบ่งบรรจุวัคซีนโควิด-19 ภายในประเทศ

 

– บริษัท องค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด (81.88 ล้านบาท) เพื่อขยายศักยภาพการผลิตวัคซีนในระดับอุตสาหกรรมรองรับการผลิตวัคซีนสำหรับประชาชนไทยด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรณีโรคโควิด-19 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 995 ล้านบาท ให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อเป็นทุนสำหรับการวิจัยพัฒนาวัคซีน และการสร้างศักยภาพการผลิตเพื่อรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้กับศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (365 ล้านบาท) บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด (596.24 ล้านบาท) ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลจะได้รับทุนคืนทั้งหมด 

 

โดยได้มีการระบุไว้ในสัญญาการรับทุนว่า เมื่อบริษัทฯ สามารถผลิตวัคซีนได้ตามมาตรฐานของ AstraZeneca แล้ว จะส่งมอบวัคซีนให้รัฐบาลไทยในจำนวนที่มีมูลค่าเท่ากับทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวัคซีนฯ จึงไม่ใช่เป็นการให้เปล่า แต่เป็นการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีในขั้นต้นเพื่อให้เป็นผลสำเร็จเท่านั้น ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (33.79 ล้านบาท)

 

อย่างไรก็ตาม วงเงินงบประมาณกว่า 2,806 ล้านบาทนี้ จะช่วยในการสร้างรากฐานและพัฒนาขีดความสามารถด้านการวิจัยวัคซีนของประเทศ เพื่อรับมือการระบาดในครั้งนี้และการระบาดของโรคอุบัติใหม่ในอนาคต เพื่อความมั่นคงทางสุขภาพ พึ่งพาตนเองด้านวัคซีนได้ในอนาคต รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถให้ไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัย พัฒนา และผลิตวัคซีนของภูมิภาคในอนาคตด้วย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X