วันนี้ (14 กรกฎาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่กว่า 10 รูป ต้องทยอยลาสิกขา สืบเนื่องจากกรณีเหตุพัวพันกับสีกา โดยระบุว่า กรณีดังกล่าวสร้างความกังวล และกังขาให้แก่พุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ โดยกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุม ไม่สามารถเอาผิดกรณีพระสงฆ์ปาราชิกเพราะเสพเมถุน แม้จะมีโทษชัดในพระธรรมวินัย แต่ไม่มีโทษทางกฎหมายอาญา และสีกาหรือบุคคลที่หวังผลประโยชน์จากพระ ก็ไม่ได้รับโทษทางกฎหมายแต่อย่างใด ยกเว้นมีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจนเกี่ยวกับเงินวัดถึงจะเอาผิดได้
ธนกรจึงเสนอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เร่งเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อกำหนดโทษอาญาให้ชัดเจน เอาผิดกับทั้งพระสงฆ์ และบุคคลทั่วไปทั้งชายและหญิง ที่จงใจทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย ต้องเอาผิดทุกฝ่าย
ทั้งนี้ ทราบว่าสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองพระพุทธศาสนาฯ ที่ พศ. เตรียมเสนอ จะมีบทลงโทษให้พระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิก หรือประพฤติลวงละเมิดพระธรรมวินัย รวมถึงหญิงหรือชาย ที่สมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร โทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000 – 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพระอวดอุตริ มีโทษทั้งจำและปรับในอัตราโทษเท่ากับพระที่อาบัติปาราชิกด้วย
นอกจากนี้ ธนกรยังฝากถึง สุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้มีการหรือระเบียบเรื่องการตรวจสอบบัญชีเงินของวัดใหญ่ๆ ชื่อดัง ให้ครบทุกบัญชีอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการทุจริตนำเงินของวัดไปใช้ส่วนตัวได้ ซึ่งได้เกิดขึ้นมาหลายกรณีก่อนหน้านี้
“ถึงเวลาที่จะต้องมีการปฏิวัติวงการพระสงฆ์ ชำระพระศาสนาให้สะอาด รื้อฟื้นความศรัทธาของชาวพุทธกลับคืนมา ขอเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ร่วมกันยกร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่มีบทลงโทษให้หนัก เพื่อให้คนมีความเกรงกลัวกฎหมาย ไม่ประพฤติผิดและละอายต่อบาป ขอพุทธศาสนิกชนคนไทยช่วยกันค้ำจุนพระศาสนาให้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคง“ ธนกรระบุ