วันนี้ (29 พฤศจิกายน) ในงานแถลงข่าวศึก RWS: Legend of Rajadamnern ก่อนไฟต์ระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ตำนานยอดนักชกชาวไทย ปะทะ นายาเนช ไอมาน นักสู้ชาวสเปนเชื้อสายคองโก ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ณ เวทีมวยราชดำเนิน โดยความพิเศษของไฟต์นี้จะเป็นการขึ้นเวทีราชดำเนินกับกติการคิกบ็อกซิ่งครั้งสุดท้ายของบัวขาวในประเทศไทย
ช่วงการแถลงข่าว เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร GVS และทีมบริหารของเวทีราชดำเนิน เปิดเผยว่า ไฟต์ระหว่างบัวขาวกับนายาเนชถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่อยากมอบให้แก่แฟนมวยที่สนับสนุนมาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่าไฟต์นี้จะมีการนับผลแพ้-ชนะอย่างเป็นทางการ
“สำหรับไฟต์นี้อย่างที่ทราบกันดี ทางพี่บัวขาวได้ออกมาเปิดใจแล้วว่าครั้งนี้อาจเป็นไฟต์สุดท้ายในการชกคิกบ็อกซิ่งในประเทศไทย ผมเชื่อว่าครั้งนี้จะเป็นไฟต์แห่งความทรงจำและควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่ง”
ขณะที่ บัวขาว บัญชาเมฆ เปิดเผยว่า การชกแบบชกคิกบ็อกซิ่งประเทศไทยครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะตนเองต้องการที่จะเบนเข็มไปแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ จากการต่อสู้ประเภทอื่น และยอมรับว่าหากตัดสินใจเลิกจริงๆ ก็คงคิดถึงบรรยากาศอันยอดเยี่ยมในการชกต่อหน้าแฟนมวยชาวไทยที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมอมา พร้อมย้ำว่า ไฟนี้ตนเองจะชกให้เต็มที่และให้ออกมาดีที่สุด เพื่อที่จะไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังอย่างแน่นอน
ด้าน นายาเนช ไอมาน นักมวยชาวสเปน กล่าวว่า ไฟต์นี้กับบัวขาวเป็นไฟต์ที่เขารอคอยมานานกว่า 5 ปี หลังจากเคยพ่ายให้บัวขาวในการดวลกันที่ประเทศจีนเมื่อปี 2018
นายาเนชกล่าวด้วยความมั่นใจว่า ไฟต์นี้จะต่างไปจาก 5 ปีก่อน เพราะครั้งนี้ตนมีเวลาเตรียมตัวมาอย่างดี ไม่เหมือนครั้งก่อนที่มีเวลาเตรียมตัวเพียง 10 วันก่อนขึ้นชก แต่วันนี้ตนเป็นนักสู้เต็มตัว ซ้อมแบบนักสู้ กินแบบนักสู้ หายใจมีชีวิตอยู่แบบนักสู้ และไฟต์นี้ตนจะสู้อย่างเต็มที่ เพราะไฟต์นี้จะทำให้ตนได้พิสูจน์ตัวต่อสายตาแฟนมวยชาวไทย บนเวทีที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของมวยไทย ณ เวทีมวยราชดำเนินแห่งนี้
สำหรับศึก RWS: Legend of Rajadamnern ซึ่งมีคู่เอกเป็นการชกกันของ บัวขาว บัญชาเมฆ ปะทะ นายาเนช ไอมาน ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง จะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ณ เวทีมวยราชดำเนิน แฟนมวยสามารถหาซื้อบัตรได้ทาง https://bit.ly/rws2dec หรือสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง Workpoint (ช่องหมายเลข 23) และยังมีการถ่ายทอดสดทาง DAZN บริษัท Streaming Content กีฬายักษ์ใหญ่ โดยจะมีการถ่ายทอดสดไปกว่า 200 ประเทศในเขตการปกครองทั่วโลก