×

‘บรูโน กิมาไรส์’ รู้จักจอมทัพชาวแซมบ้า ว่าที่สตาร์คนแรกของนิวคาสเซิลยุคทุนซาอุ

28.01.2022
  • LOADING...
บรูโน กิมาไรส์

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสรใหม่เป็นกลุ่มทุนจากอาบูดาบีที่อยู่ใต้อาณัติของ เชค มานซูร์ บิน ซายิด อัล นาห์ยาน ซึ่งหนึ่งในภารกิจสำคัญแรกๆ คือ การค้นหาผู้เล่นระดับสตาร์เข้ามาประดับทีมให้ได้

 

หลังจากที่พยายามค้นหาสตาร์คนดังกล่าวอยู่พักใหญ่ ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ก็ประสบความสำเร็จในการขอซื้อโรบินโญจากเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติการย้ายทีมสูงสุดของอังกฤษในเวลานั้น โดยเชลซีคู่แข่งที่ต้องการได้ตัวเช่นกันระบุว่า พวกเขาไม่สามารถสู้ค่าตัวที่ทีมจากสเปนเรียกร้องไหว

 

เวลาผ่านมาถึงปี 2022 โลกฟุตบอลต่างจับตามองเช่นกันว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ถูกซื้อไปโดยกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีเป้าหมายแบบเดียวกับที่ทุนจากกาตาร์ต้องการสร้างแมนฯ ซิตี้ ให้กลายเป็นสุดยอดทีมของโลก จะซื้อสตาร์รายใดเข้ามาเป็นคนแรก?

 

ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แฟนๆ แม็กไพส์ฝันไปไกลลิบถึงนักเตะอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป หรือ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ แต่ความเป็นจริงแล้วการซื้อนักเตะในระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อสโมสรไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะลุ้นความสำเร็จได้ บางครั้งเงินอย่างเดียวก็อาจไม่พอ

 

นักเตะสองรายแรกที่ถูกดึงตัวเข้ามาจึงเป็นนักเตะที่จำเป็นต่อทีมในสถานการณ์ปัจจุบันอย่าง คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษจากแอตเลติโก มาดริด ในราคา 15 ล้านปอนด์ และ คริส วูด กองหน้าสไตล์ตัวเป้าที่มีความหนักแน่นจากเบิร์นลีย์ในราคา 30 ล้านปอนด์

 

แต่ทั้งสองก็ไม่ใช่นักเตะระดับสตาร์ที่จะสร้างความฮือฮาได้ ก่อนที่จะมีกระแสข่าวว่า นิวคาสเซิลใกล้ได้ตัว ดีเอโก คาร์ลอส ปราการหลังจอมแกร่งชาวบราซิลจากเซบียา แต่การเจรจายังไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด รวมถึงรายของ เจสซี ลินการ์ด ตัวรุกทักษะสูงที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมปล่อยตัวยืมใช้งานโดยง่าย

 

อย่างไรก็ดี ล่าสุดนิวคาสเซิลกำลังจะได้นักเตะสตาร์รายแรกจริงๆ แล้ว เมื่อมีรายงานข่าวว่าสามารถบรรลุข้อตกลงกับทีมโอลิมปิก ลียง ในการขอซื้อตัว บรูโน กิมาไรส์ กองกลางวัย 24 ปีชาวบราซิลได้สำเร็จ โดยสนนราคาค่าตัวไม่ถึงกับมากแต่ก็ไม่น้อยนักที่ 40 ล้านยูโร บวกกับเงินโบนัสตามเงื่อนไขอีก 8 ล้านยูโรด้วยกัน

 

กิมาไรส์คือใคร เล่นในตำแหน่งไหน?

 

นักเตะรายนี้คือเพชรเม็ดงามที่ จูนินโญ แปร์นัมบูกาโน อดีตจอมเทพฟรีคิกของลียง ซึ่งปัจจุบันนั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายกีฬา ดึงตัวมาจากแอตเลติโก พาราเนนเซ สโมสรในบ้านเกิดที่บราซิล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020

 

จากนักเตะโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก แค่เกมที่ 2 ที่เขาได้ลงสนามในนามของโอแอล กิมาไรส์สร้างความประทับใจได้ทันทีด้วยการมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลียงสยบยูเวนตุสที่มี คริสเตียโน โรนัลโด ได้ 1-0 ในเกมนัดแรกของรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

ผลงานในเกมดังกล่าวและช่วงหลังจากนั้นอีก 5 นัดที่เขาได้ลงสนามก่อนที่ฟุตบอลฝรั่งเศสจะต้องปิดฤดูกาลจากสถานการณ์การระบาดของโควิด ทำให้แฟนๆ ลียงตื่นเต้นกับขวัญใจคนใหม่ของทีม และนั่นกลายเป็นสถานะของเขานับจากนั้นเป็นต้นมา

 

โดยตำแหน่งแล้ว บรูโน กิมาไรส์ คือกองกลางตัวรับ แต่เป็นตัวรับที่มีความครบเครื่องต้มยำ สามารถคอนโทรลเกมได้อย่างนุ่มนวล รับบอลจากกองหลังและออกบอลต่อให้เพื่อนช่วยให้เกมดำเนินไปอย่างลื่นไหล ซึ่งสเตปเท้าของเขาได้มาจากการฝึกฝนเล่นฟุตซอลในช่วงอายุ 6-16 ปี

 

ภาพชินตาที่แฟนๆ จะได้เห็นคือ การรับบอลจากกองหลัง พลิกบอลหนีตัวประกบ ก่อนที่จะลากพาบอลฝ่าขึ้นหน้ามา ก่อนจะจ่ายให้เพื่อนต่อไป และเป็นคนที่มีนิสัยติดเล่นเสี่ยง แม้ว่าการเดิมพันในสนามส่วนใหญ่แล้วเขาจะเป็นฝ่ายได้มากกว่าเสียก็ตาม

 

ฮุสเซม อาอัวร์ อีกหนึ่งสตาร์กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสของลียง กล่าวถึงกิมาไรส์ว่า “เขาคือส่วนสำคัญในวิธีการเล่นของทีม การมีเขาอยู่นั้นช่วยให้ทีมเล่นได้อย่างลื่นไหลมาก”

 

ไม่ใช่แค่เรื่องในสนามที่ตั้งใจ นอกสนามเองกิมาไรส์ก็เต็มที่ไม่แพ้กัน ดูได้จากการพยายามปรับตัวให้เข้ากับการเล่นในฝรั่งเศส โดยในช่วงการล็อกดาวน์ครั้งแรกเขาใช้เวลาสัปดาห์ละ 5 วันในการเรียนภาษาฝรั่งเศสกับครูผู้สอนชาวบราซิลผ่าน Skype

 

ภายในระยะเวลา 5 เดือน เขาก็สามารถให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสได้แล้ว

 

กิมาไรส์ยังรู้จักวิธีมัดใจแฟนบอลด้วยการสักที่แขนขวาเป็นรูปสิงโต ซึ่งเป็นตราสโมสรของลียง ทำให้แฟนบอลเปิดใจต้อนรับเขาอย่างรวดเร็ว

 

ส่วนหมายเลขเสื้อ 39 ที่เขาใช้ มาจากหมายเลขรถแท็กซี่ที่พ่อของเขาเป็นคนขับหาเลี้ยงครอบครัวในบ้านเกิดที่บราซิล เพื่อเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่าเขามีวันนี้ได้เพราะใคร

 

นักเตะที่เพิ่งคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในการแข่งขันที่กรุงโตเกียวเมื่อปีกลาย ด้วยการจับคู่กับ ดักลาส ลุยซ์ ของแอสตัน วิลลา ในแดนกลาง เริ่มได้โอกาสในการเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ โดยติดทีมเซเลเซามาแล้ว 3 ครั้ง

 

ดังนั้นถึงจะไม่ใช่สตาร์กองหน้า ตัวทำเกม หรือปีกจอมพลิ้ว แต่อย่างน้อยแดนกลางของนิวคาสเซิลจะมีสีสันและประสิทธิภาพขึ้นกว่าที่ผ่านมา

 

และเราอาจจะพอเรียกได้ว่า นี่คือสตาร์คนแรกจริงๆ ของทีมสาลิกาดงยุคใหม่

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising