วันนี้ (16 มีนาคม) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 33 ราย ทำให้สถานการณ์ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 38 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 108 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 147 ราย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 มีผู้ป่วย 16 ราย เป็นกลุ่มที่มีการสัมผัสกับผู้ป่วยที่ผ่านการยืนยัน สามารถสืบที่มาที่ไปได้ชัดเจน เกี่ยวข้องกับสถานที่ และไปพบปะอยู่ใกล้กับผู้ป่วยที่มีการยืนยันมาก่อนนี้ เช่น สนามมวย, สถานบันเทิง และมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้
กลุ่มที่ 2 มีผู้ป่วย 17 ราย ส่วนหนึ่งคือผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ อีกส่วนทำงานใกล้ชิดกับคนต่างชาติ รวมถึงเคยสัมผัสกับกลุ่มที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน
“ณ วันนี้เรื่องระยะเป็นการกำหนดขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ ซึ่งสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ระยะอะไรเลย สิ่งสำคัญคือเราต้องลดจำนวนผู้ป่วยลงให้ได้มากที่สุดเพื่อลดผลกระทบ ดังนั้นเมื่อแบ่งตามเกณฑ์ทางการแพทย์ ไทยยังอยู่ในระยะที่ 2”
ทางด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงไปยังสถานที่ที่มีผู้คนแออัดจำนวนมาก ส่วนคนที่มีอาการป่วยต้องขอให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านในกรณีที่อาการยังน้อยอยู่ แต่หากพบว่ามีไข้สูงติดต่อกันเป็นเวลา 48 ชั่วโมง มีอาการทางเดินหายใจที่ชัดเจน ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที
ส่วนบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะพื้นที่ที่พบว่ามีการระบาดหนัก ไม่ว่าจะเป็นจีน, เกาหลีใต้, อิตาลี หรืออิหร่าน รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรปและเอเชีย ได้เข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นพนักงานกรมควบคุมโรค ติดต่อที่สนามบิน หรือมีอาการหลังจากเดินทางมาถึง ให้รีบติดต่อสถานพยาบาลที่รับการรักษาอยู่แล้ว หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เพื่อขอคำแนะนำ ทั้งนี้สำหรับผู้ป่วยที่จะเดินทางไปโรงพยาบาล ขอแนะนำให้เลี่ยงการเดินทางผ่านรถสาธารณะ และสวมหน้ากากอนามัยให้เรียบร้อยเมื่อต้องไปโรงพยาบาล
