วันนี้ (17 มกราคม) เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย และรอบชิงชนะเลิศของแบดมินตันศึกโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30 ล้านบาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในรูปแบบ New Normal ภายใต้มาตรการคุ้มเข้มเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตันและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด
เริ่มเวลา 12.00 น. เป็นการแข่งขันประเภทคู่ผสมรอบชิงชนะเลิศ บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก พบกับ ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดวา อ๊อตตาเวียนติ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากอินโดนีเซีย
เริ่มเกมแรกไทยออกสตาร์ทได้ดีกว่าขึ้นนำห่างไปก่อน 11-3 คะแนน ครึ่งหลังของเกมแรก ปราวีน จอร์แดน จากอินโดนีเซียตีพลาดเองหลายจังหวะ รวมถึงไทยเร่งกดดันใส่อย่างต่อเนื่อง จนนำห่างและเอาชนะไปได้ 21-3 คะแนน
เข้าสู่เกมที่ 2 ปราวีน จอร์แดน เร่งเครื่องบุกทำคะแนนนำไทยก่อน 12-6 คะแนน แต่ช่วงท้ายเกมไทยเริ่มไล่ขึ้นมาได้เป็น 17-17 คะแนนเท่ากัน ทั้งสองฝั่งไล่ทำคะแนนกันอย่างสูสี ไปถึงสกอร์ 20-20 คะแนนเท่ากัน แต่เป็นฝ่ายอินโดนีเซียที่เอาชนะไปได้ 22-20 คะแนน เสมอกันที่ 1-1 เกมเข้าไปตัดสินในเกมที่ 3
เกมสุดท้ายอินโดนีเซียเร่งฟอร์มกลับมาอย่างสูสีทำคะแนนเท่ากันที่ 17-17 คะแนน ก่อนที่ไทยจะขึ้นแท่นก่อน 20-17 คะแนน และเป็นไทยที่เก็บชัยชนะไปได้ 21-18 คะแนน เอาชนะไป 2-1 เกม คว้าแชมป์ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่นไปครอง พร้อมกับเป็นแชมป์แรกของบาสและปอป้อในระดับซูเปอร์ 1000
สำหรับนักแบดมินตันไทยยังมีการแข่งขันประเภทหญิงคู่รอบชิงชนะเลิศ กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ วิว-รวินดา ประจงใจ คู่มือวาง 7 ของรายการ และคู่มืออันดับ 11 ของโลก จะลงสนามพบกับ เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี ราฮายู คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย ลงแข่งขันเป็นคู่ที่ 3 ของวันสุดท้าย ถ่ายทอดสดทาง TrueSport HD 3 (668) และ True4u
