วันนี้ (29 สิงหาคม) ธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ขอรายงานสถานการณ์และการควบคุมดูแลตัวผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด ที่ถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, ฟ้า-พรหมศร วีระธรรมจารี, ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก, บอย-ชาติชาย แกดำ และ ไผ่ ดาวดิน-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นั้น ในวันนี้แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้เข้าตรวจร่างกาย พบว่า
พริษฐ์รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ หายใจปกติ ไม่มีหอบเหนื่อย ไอเล็กน้อย ไม่มีเจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก หลับได้ปกติ ทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
ในส่วนของพรหมศร รู้สึกตัวดี ยิ้มแย้มพูดคุย ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้
ภาณุพงศ์รู้สึกตัวดี ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้ป่วยสีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย หายใจปกติ ไม่มีไข้ เจ็บคอ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้
จตุภัทร์รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย และมีไอเล็กน้อย ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้
ด้านชาติชายรู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2564 ได้รับแจ้งจากชาติชายว่ามีอาการแน่นหน้าอก หายใจปกติ แพทย์ตรวจอาการ ระดับออกซิเจนปกติ พิจารณาเอกซเรย์ซ้ำ พบว่ามีฝ้าที่ชายปอด (เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ผลปกติ) จึงได้ทำการย้ายจากโรงพยาบาลสนามมาหอผู้ป่วยโควิดเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด โดยผู้ต้องขังทั้งหมดมีสัญญาณชีพและค่าออกซิเจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ธวัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนกรณีที่มีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อบัญชีว่า เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – United Front of Thammasat and Demonstration เผยแพร่ข้อความและปรากฏภาพของ วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข รักษาการผู้อำนวยการทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่าเป็นผู้ยับยั้งการเซ็นย้ายตัวนิวและเพนกวินไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ โดยข้อความเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ระบุถ้อยคำที่เป็นข่าวปลอมหรือ Fake News สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง หมิ่นประมาทในที่สาธารณะ และมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเกิดความเข้าใจผิด จึงได้ดำเนินการทางกฎหมายเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ผลิตและเผยแพร่ข้อความดังกล่าวแล้ว
ดังนั้นกรมราชทัณฑ์จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลที่ยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม
