ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมกับธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI), ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM), ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) และธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค ที่เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G20 เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเร่งการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค
รณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินจะเป็นส่วนสำคัญในการเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค และส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทั่วถึงมากขึ้น โดยจะช่วยสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาให้มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติยันไทยไม่ซ้ำรอย ‘วิกฤตต้มยำกุ้ง’ แม้บาทอ่อน เหตุทุนสำรองสูง-เงินทุนไหลเข้าสุทธิ
- ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เผยพร้อม ‘ขึ้นดอกเบี้ยแรง’ หากเงินเฟ้อพื้นฐานไม่เป็นไปตามคาด พร้อมยันบาทอ่อนกระทบเงินเฟ้อไม่มาก
- ‘แบงก์กรุงเทพ’ ประเดิมขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ หลัง กนง. ขึ้นดอกเบี้ย หวังช่วยลดความเสี่ยงเงินเฟ้อ มีผลวันที่ 29 กันยายน
นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนการโอนเงินระหว่างประเทศ การท่องเที่ยว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ระบบนิเวศทางการเงินในภูมิภาคครอบคลุมสู่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการมีส่วนร่วมในตลาดระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น การเชื่อมระบบ QR Code และการเชื่อมระบบการชำระเงินแบบทันที (Fast Payment)
นอกจากนี้ กลุ่มประเทศ G20 ยังได้จัดทำ ‘Roadmap for Enhancing Cross-border Payments’ เพื่อผลักดันสมาชิกให้เร่งนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวาระสำคัญว่าด้วยการขับเคลื่อนด้านดิจิทัลของอินโดนีเซียในฐานะประธานกลุ่มประเทศ G20 ซึ่งรวมถึงการพัฒนาระบบการชำระเงินดิจิทัลร่วมกับธนาคารกลางทั้ง 5 แห่งในครั้งนี้อีกด้วย โดยในระยะต่อไปสามารถขยายความร่วมมือไปยังประเทศอื่นๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค
ทั้งนี้ ความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของอินโดนีเซียในปี 2023 ต่อไป
รณดลกล่าวอีกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้สนับสนุนวิสัยทัศน์ร่วมของอาเซียนที่ต้องการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค เพื่อให้ธุรกรรมการชำระเงินทำได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และมีต้นทุนที่ถูกลง นอกจากนี้ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับประเทศอื่นในอาเซียนที่ต้องการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในระยะต่อไป และส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ตามแนวทางของอาเซียนที่มุ่งเน้นการสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน โดยคำนึงถึงระดับความพร้อมของแต่ละประเทศ
“ปัจจุบันอาเซียนเป็นภูมิภาคที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนานาประเทศในด้านการเชื่อมโยงระบบการชำระเงิน โดย MOU นี้เป็นการต่อยอดจากสิ่งที่ประเทศสมาชิกได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา และเป็นอีกก้าวสำคัญในการร่วมกันก้าวข้ามอุปสรรคด้านการชำระเงินระหว่างประเทศที่มีมายาวนาน ทั้งนี้ MOU ดังกล่าวสอดคล้องกับการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในปัจจุบันของอาเซียน ซึ่งเป็นการเชื่อมแบบทวิภาคี และจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเชื่อมแบบพหุภาคี เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนทางดิจิทัลและการรวมกลุ่มทางการเงินในภูมิภาคต่อไป” รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าว