วันนี้ (30 มีนาคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล เริ่มตั้งคำถามและทบทวนถึงผลกระทบของมาตรการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ของรัฐบาลในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก หลังมีผู้เรียกร้องบางกลุ่มต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศก้าวต่อไปข้างหน้า
ผู้นำบราซิลโพสต์คลิปวิดีโอลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว (@jairbolsonaro) พร้อมระบุว่า “สิ่งที่ผมได้ยินจากประชาชนคือพวกเขาต้องการที่จะทำงาน ผมพยายามพูดมาตั้งแต่ต้นว่าเราจะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง ใครที่อายุมากกว่า 65 ปีก็อยู่แต่ภายในที่พักอาศัย”
พ่อค้ารายหนึ่งกล่าวกับโบลโซนารูว่า “เราจะหยุดอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ มันคือความกลัว เพราะถ้าคุณไม่ตายเพราะโรคร้าย คุณก็จะตายเพราะอดตาย”
โดยโบลโซนารูเรียกร้องให้ภาคส่วนต่างๆ รวมถึงประชาชนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เนื่องจากถ้าปล่อยให้มาตรการกักตัวอยู่แต่ภายในที่พักยืดออกไป ปัญหาการว่างงานจะกลายเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับบราซิล และอาจใช้เวลานานหลายปีกว่าจะสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับให้ทางเลือกว่าคุณจะขับเคลื่อนบราซิลไปข้างหน้าหรือจะยอมกลายเป็นแบบเวเนซุเอลา
ผู้นำขวาจัดรายนี้ยังระบุอีกว่า “บางคนต้องการให้ผมหยุดพูดและปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ แต่เราต้องเผชิญหน้ากับความจริง ยอมรับให้ได้ว่านี่ล่ะชีวิต วันหนึ่งพวกเราทุกคนก็จะต้องตาย” พร้อมเร่งผลักดันให้กลับมาเปิดสถานศึกษาและห้างร้านต่างๆ โดยเร็ว
ล่าสุดยอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในบราซิลสูงถึง 4,284 ราย รักษาหาย 7 ราย เสียชีวิตแล้ว 136 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 3.17% พบการระบาดรุนแรงสุดในลาตินอเมริกาขณะนี้ ตามมาด้วยชิลี (2,139 ราย) และเอกวาดอร์ (1,924 ราย)
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
ภาพ: Andressa Anholete / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: