BMW ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำจากเยอรมนีเตรียมย้ายฐานการผลิตเครื่องยนต์สันดาป (กระบอกสูบ 4-12 สูบ) ที่จากเดิมตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ไปยังฐานการผลิตแห่งใหม่ใน แฮมส์ ฮอลล์ สหราชอาณาจักร และเมืองสเตเยอร์ ประเทศออสเตรีย ภายในปี 2024 หลังจากที่โรงงานในเยอรมนีกำลังจะรุกแผนพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว
BMW ได้ออกมาประกาศข่าวนี้เมื่อวันพุธที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นประเทศเยอรมนี ถึงแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท โดยระบุว่าทาง BMW Group กำลังอยู่ในระหว่างการเร่งกระบวนการเสริมความแข็งแกร่งของสายพานการผลิตรถยนต์อีวีของบริษัทในโรงงานหลายแห่งทั่วโลก
โดยจะทุ่มงบลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านยูโร หรือราว 14,376 ล้านบาท จนถึงปี 2026 หรืออีก 6 ปีต่อจากนี้ ในการพัฒนาฐานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานหลักของ BMW ในเมืองมิวนิก
Milan Nedeljković สมาชิกคณะกรรมการบริหาร BMW AG กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นว่า “เรากำลังดำเนินการตามกลยุทธ์การมุ่งพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ และภายในสิ้นปี 2022 โรงงานของเราในประเทศเยอรมนีจะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% ให้ได้อย่างน้อยหนึ่งคัน
การปรับโครงสร้างโครงข่ายการผลิตเครื่องยนต์ของเรา ถือเป็นการขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อมุ่งหน้าไปยังโลกแห่งอนาคต นอกจากนี้ เรายังได้ดำเนินการยกระดับประสิทธิภาพของกำลังการผลิตของเราให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย”
การตัดสินใจย้ายฐานการผลิตเครื่องยนต์สันดาป และพัฒนาโรงงานแห่งเดิมของ BMW ซึ่งถูกใช้งานเพื่อพัฒนาเครื่องยนต์แบบเดิมในครั้งนี้ที่ถูกใช้งานมานานกว่า 100 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ BMW ในการทรานสฟอร์มตัวเองไปยังการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
หลังการประกาศข่าวดังกล่าวออกมา หุ้นของ BMW ในตลาดหลักทรัพย์ XETRA German Electronic Exchange เยอรมนี ได้ปิดตลาดที่ 73.87 ยูโร ปรับขึ้น 1.40% จากช่วงเปิดตลาด และมี Market Cap หรือมูลค่าตามราคาตลาดที่ 47,652 ล้านยูโร หรือกว่า 1.71 ล้านล้านบาท
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: