คุณคิดอย่างไรกับคนที่ทำอาชีพที่เราเรียกกันจนติดปากว่า “คุณหมอ”
มีความเก่งกาจในเรื่องการรักษาคนไข้ให้หายป่วย ภาพลักษณ์ต้องดูเป็นนักวิชาการ น่าเชื่อถือ มีฐานะทางสังคมที่มั่นคงและครบพร้อม ฯลฯ
ไม่ว่าในความคิดของคุณจะเป็นอย่างไร นายแพทย์สรรเพชร เลิศตระกูล คือหนึ่งในคนที่เราอยากจะบอกคุณว่า อย่าตีค่าตัวตนของคนแค่เรื่องอาชีพ เพราะเขายังมีอีกด้านในชีวิตที่เข้มข้น และน่าค้นหา โดยเฉพาะเมื่อสิ่งนั้นคือเรื่องของความเร็วและความท้าทาย ซึ่งแทบจะเป็นขั้วตรงข้ามกับอาชีพการงานของเขาด้วยซ้ำ นี่คือความน่าสนใจที่ทำให้เราชวนคุณหมอถอดเสื้อกาวน์เพื่อพูดคุยกัน และนั่นทำให้เราพบว่า ถ้าได้พบนายแพทย์สรรชัยนอกโรงพยาบาล เขาก็คือชายผู้มีมุมมองนอกกรอบ มีการเดินทางและความทะยานองอาจของรถยนต์ คอยหล่อเลี้ยงตัวตน เฉกเช่นผู้ชายคนอื่นๆ
“การเป็นแพทย์ อาจทำให้เราอยู่ในกรอบมากเกินไป มุมมองที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากตัวเรา คนไข้ และญาติคนไข้ ทางที่จะทำให้เราได้อยู่นอกกรอบก็คือ เราต้องออกเดินทาง มันทำให้เราเกิดไอเดียใหม่ๆ อย่างน้อยก็ทำให้เราสดชื่นขึ้น เหมือนได้ไปชาร์จพลังให้พร้อมลุยงานต่อไป”
สำหรับบางคน การเดินทางจะมีคุณค่า ก็ต่อเมื่อเป็นการเดินทางในเชิงท่องเที่ยวเท่านั้น หากเป็นการเดินทางเพื่อไปทำงาน ก็ดูเหมือนจะมีเงื่อนไขบีบรัดให้ไม่รู้สึกสนุกรื่นรมย์ แต่สำหรับนายแพทย์ผู้นี้ เขาไม่เคยเกี่ยงว่าจะเป็นการเดินทางรูปแบบไหน ต่อให้เป็นการเดินทางเพื่อไปเที่ยวหรือทำงาน เขาก็สามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่อยู่ระหว่างการเดินทางให้กับชีวิตได้อยู่เสมอ
“เวลาผมไปไหนแต่ละครั้ง จะตั้งคำถามตลอดว่าไปรอบนี้จะได้อะไรกลับมา ถ้าไปประชุม แน่นอนว่าเราต้องได้ความรู้กลับมาอยู่แล้ว แต่นอกเหนือจากนั้นล่ะ เราจะเก็บเกี่ยวอะไรกลับมา รอบๆ ข้างที่เป็นกำไรชีวิตของเรา เราจะเลือกอะไรมาเพิ่มเติมใส่ตัวเรา เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีวิ่งไปอย่างรวดเร็ว อาชีพแพทย์เองก็ไม่อาจอยู่นิ่งได้”
อย่างที่เราทราบกันว่า อาชีพแพทย์มีความเกี่ยวพันกับความเป็นความตายของผู้คน เมื่อเขาตัดสินใจรับหมวกของการเป็นแพทย์มาสวมไว้แล้ว ครึ่งหนึ่งในชีวิตของเขาก็ต้องอุทิศเพื่อช่วยชีวิตคน แม้ว่าบางครั้งอาจทำให้ต้องพลาดทริปในฝันไปก็ตาม
“ด้วยความที่ผมเป็นหมอ การทำงานบางอย่างผมอาจวางแผนล่วงหน้าได้ แต่สิ่งที่ผมวางแผนไม่ได้เลยคืออุบัติเหตุ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้อยู่ทุกเมื่อ และเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของผม เพราะผมเป็นหมอผ่าตัดสมอง เช่น ถ้าพรุ่งนี้จะเดินทาง เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมแล้ว แต่วันนี้ดันมีคนไข้ประสบอุบัติเหตุรถชน ก็จำเป็นต้องสละทริป ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยมีมาแล้ว และผมเลือกชีวิตคนไข้ครับ”
ทริปที่นายแพทย์สรรเพชรพลาดไปในวันนั้น คือโปรแกรมเดินทางไปกับ The Ultimate JOY Experience ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งออกแบบประสบการณ์ให้ผู้ร่วมทริปได้ขับรถบนพื้นผิวหิมะ และน้ำแข็งที่สนามทดสอบ Southern Hemisphere Proving Grounds บนยอดเขาคาร์โดนา
JOY หรือ The Ultimate JOY Experience เป็นโปรแกรมที่ BMW Thailand สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อมอบสิทธิประโยชน์สำหรับเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกคน ซึ่งมีอยู่หลากหลายประเภทประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์กินดื่มสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประสบการณ์ช้อปปิ้งคุ้มค่า ประสบการณ์เพื่อสุขภาพและความบันเทิงเหนือระดับ รวมไปถึงประสบการณ์การเดินทางแสนพิเศษที่คุณหมอเองไม่อยากพลาด
“สำหรับทริปที่พลาดไปนั้น แม้ว่าตัวจะไม่ได้ไป แต่ผมส่งใจไปนะครับ ผมยังคงอยู่ในไลน์กรุ๊ปของกลุ่มคนที่ไปร่วมทริปนั้น ก็ได้เห็นพวกเขาพูดคุยกัน ผมติดตามอ่านตลอดก็รู้สึกว่าน่าสนุกมาก ตอนนั้นก็ตั้งใจไว้แล้วว่า ถ้าทาง BMW Thailand จัดทริปอีกเมื่อไร ผมจะกดปุ่ม ‘สมัคร’ ทันที และในที่สุดทริปแรกกับ The Ultimate JOY Experience ก็มาถึง เป็นทริปที่เดินทางไปนูร์เบอร์กริง ประเทศเยอรมนี สนุกมาก ผมได้ขับรถ ได้ปลดปล่อย เหมือนได้เห็นตัวตนของเราอีกด้าน เพราะผมเป็นคนที่ชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว”
เดาได้ไม่ยากเลยว่านายแพทย์ผู้นี้ต้องชื่นชอบการเดินทางในรูปแบบ Road Trip จากความหลงใหลในเครื่องยนต์และความเร็ว ซึ่งคุณหมอก็บอกถึงเหตุผลที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือประสบการณ์จากข้างทางที่ไม่อาจคาดเดา
“เสน่ห์ของ Road Trip คือการที่เราต้องนั่งอยู่หลังพวงมาลัย แล้วควบคุมเครื่องยนต์ให้ขับเคลื่อนพาเราไป เราจึงอินกับมันได้เยอะ ตื่นเต้นกับทุกโค้ง อะดรีนาลีนหลั่งไหล เหมือนได้พลังกลับคืนมา อีกทั้งระหว่างทางของ Road Trip มักมากับความคาดเดาไม่ได้ จึงมีเรื่องเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นในความทรงจำ อย่างที่ทริปนูร์เบอร์กริงมีเรื่องราวที่ติดอยู่ในความทรงจำของผม จำได้ว่าหลังจากที่เราขับรถกันมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาพัก โดยเราจะได้ไปนั่งเป็นผู้โดยสาร แล้วมีคนขับมืออาชีพมาขับพาเราเที่ยวบ้าง ระหว่างที่ผมไปยืนรอเพื่อขึ้นรถ ผมก็เห็นรถคันหนึ่งขับผ่านมา คนที่ขับรถอยู่นั้นหน้าตาคลับคล้ายคลับคลาเหมือนนักแข่งรถที่ผมชื่นชอบ แต่ยังไม่แน่ใจ กระทั่งรถคันเดิมขับผ่านมาอีกรอบ ใช่แน่ ‘กีกี้-ศักดิ์ นานา’ ผมเป็นคนรักความเร็วอยู่แล้ว ก็รู้ว่าเขาเป็นนักขับฝีมือดี ก็มีการโบกไม้โบกมือทักทายกัน พอเขาจอดรถลงมา พวกผมก็ไปเชิญมาพูดคุย ถ่ายรูปกัน ยิ่งประทับใจไปใหญ่ เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมาก เป็นเหตุการณ์นอกตารางที่ผมติดอยู่ในความทรงจำของผม”
เมื่อทริปแรกได้รับการปลดล็อกด้วยความประทับใจ ทริปต่อๆ ไปจึงตามมา ทั้งทะเลสาบน้ำแข็งที่ประเทศสวีเดน และล่าสุดกับทริปประเทศญี่ปุ่น นับจากนั้น หากมีทริปในโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ก็จะมีนายแพทย์สรรเพชรร่วมขบวนไปด้วย เพราะเขาพิสูจน์มาแล้วว่าทริป The Ultimate JOY Experience ให้คุณค่ากับเขามากกว่าแค่การเดินทางท่องเที่ยวทั่วๆ ไป นอกเหนือจากประสบการณ์รายทางแล้ว มันเหมือนเป็นการพาเขากลับมาพบปะกับผู้คนที่เป็นเสมือน ‘ครอบครัวเดียวกัน’
“The Ultimate JOY Experience เป็นความลงตัวระหว่างการได้ขับรถกับการได้เที่ยว ด้านการขับรถ คือทำให้ผมขับรถได้ดีขึ้น ใช้รถได้เต็มสมรรถนะ ได้รู้ว่าการขับรถให้ปลอดภัยทำอย่างไร ส่วนด้านการท่องเที่ยวเติมประสบการณ์ เราได้ไปพบเห็นสถานที่อันซีนหลายๆ แห่ง ที่เราไม่อาจหาได้จากทริปอื่นๆ และที่ประทับใจที่สุดในทุกทริป ก็คือการที่เราได้พบเจอกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ ที่ชอบในสิ่งเดียวกัน เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็สนิทกัน เหมือนรู้จักกันมาเป็นปีๆ บางครั้งการที่เราได้ไปเจอเพื่อนต่างสาขาอาชีพ ได้แชร์ความคิดเห็นพูดคุยกันในมุมที่เราไม่เคยคิด ก็เกิดมุมมองใหม่ๆ ให้เราสามารถหยิบนำมาใช้กับชีวิตเราได้ มันเป็นอีกโลกหนึ่งเลย เหมือนเราได้ปลดปล่อยจากสิ่งที่จำเจอยู่ทุกวัน ตรงนี้ทำให้ผมรู้ว่าบีเอ็มดับเบิลยูไม่ใช่แค่แบรนด์รถยนต์ แต่เป็นครอบครัวที่เชื่อมให้ผมได้พบเจอผู้คนหลากหลายที่เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันกับเรา”
“ทุกวันนี้ชีวิตทั้งสองด้านของผม ถูกเติมเต็มโดยตลอดทั้งคู่ ผมมีความสุขกับการเป็นหมอ เวลาได้รักษาคนไข้จนเขาหายป่วย ได้เห็นรอยยิ้มของคนไข้ และของทุกคนรอบข้าง ผมก็ภูมิใจ และอีกด้านหนึ่งที่เป็นตัวตน ผมก็รู้สึกมีความสุขที่ได้จับพวงมาลัยขับรถไปเที่ยว กลับมาแล้วไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อย มีแต่รอคอยจะไปอีก หรือถ้าไม่ได้ออกไปไหน แค่เดินไปดูรถของตัวเอง ได้ล้างรถเองก็รู้สึกมีความสุขแล้ว”
ถ้าคุณเป็นชาวบิมเมอร์อยู่แล้ว แต่ยังลังเล หรือตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากร่วมทริปกับโปรแกรม JOY หรือ The Ultimate JOY Experience นายแพทย์สรรเพชร ฝากข้อความถึงคุณว่า
“หากคุณรู้ใจตัวเองว่าการเดินทางจะเติมเต็มชีวิตให้กับคุณได้ ก็จงอย่ารีรอที่จะก้าวออกไปค้นหาตัวตน ยิ่งถ้าคุณเป็นเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูอยู่แล้ว ต้องลองมาร่วมทริปกับ The Ultimate JOY Experience ให้ได้สักครั้ง แล้วประสบการณ์ที่ได้รับจะตอบความคับข้องใจทั้งหมดที่คุณมีอยู่ จากนั้นคุณก็จะติดใจ เหมือนที่ผมเป็น”
นี่คือประสบการณ์จริงของผู้ขับขี่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ตอกย้ำว่า บีเอ็มดับเบิลยูไม่ใช่แค่ยนตรกรรม แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมทางที่สนับสนุนแพสชันของทุกคน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์