หลังจากที่เราได้สำรวจุดเริ่มต้นของการแข่งขัน BMW Berlin Marathon ที่กำลังจะจัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 44 ในวันที่ 24 กันยายนนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจเส้นทาง และสาเหตุหลักว่า ทำไมสถิติโลกของมาราธอน 6 ครั้งหลังสุดถึงได้ถูกทำลายที่สนามแห่งนี้
สนามเรียบและโค้งน้อย เพื่อเป็นบททดสอบความเร็วของนักวิ่ง
Berlin Marathon ถือเป็นหนึ่งในสนามแข่งขันมาราธอนระดับเมเจอร์ที่นักวิ่งทั่วโลกอยากเข้าร่วมแข่งขัน โดยความพิเศษของเบอร์ลินมาราธอนคือ สถิติโลกที่ถูกทำลายบ่อยที่สุดที่สนามแห่งนี้
สาเหตุหลักที่สนามแห่งนี้ช่วยให้นักวิ่งทำเวลาได้ดี เนื่องจากพื้นสนามที่เรียบกว่ารายการเมเจอร์อื่นๆ ทั่วโลก โดยจุดเริ่มต้นของการแข่งขันมีความสูงอยู่ที่ 38 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และตลอดเส้นทางการแข่งขันจะไม่มีส่วนใดสูงกว่า 53 เมตร หรือต่ำกว่า 37 เมตร ทำให้นักวิ่งไม่ต้องวิ่งขึ้นหรือลงเขามาก เมื่อเปรียบเทียบกับ London Marathon ซึ่งมีโค้งมากกว่า และที่สำคัญคือ นักวิ่งมักพบกับแรงลมปะทะตัวในระหว่างที่วิ่งเลียบแม่น้ำเธมส์ (Thames) ขณะที่เส้นชัย Boston Marathon ต่ำกว่าจุดออกสตาร์ทมากขนาดที่ไม่สามารถวัดและบันทึกสถิติโลกได้
ตลอดเส้นทางของ Berlin Marathon จะราดด้วยยางแอสฟัลต์ซึ่งช่วยให้นักวิ่งปวดเข่าน้อยกว่าที่อื่นๆ ที่ใช้คอนกรีตเป็นสนามแข่งขัน นอกจากนี้ ช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ยังถือว่ามีสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการวิ่งมาราธอน โดยในเบอร์ลิน จะมีอุณหภูมิที่ประมาณ 12-18 องศาเซลเซียส ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการวิ่งเพื่อทำความเร็ว
เส้นทางประวัติศาสตร์ในกรุงเบอร์ลิน
อีกหนึ่งเสน่ห์ของการแข่งขันมาราธอนที่กรุงเบอร์ลิน คือบรรยากาศของการแข่งขัน ซึ่งตลอดเส้นทาง 42.195 กิโลเมตร เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่น่าหลงใหล
โดยจุดสตาร์ทและเส้นชัย นักวิ่งจะเริ่มต้นการแข่งขันที่ประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg) ซึ่งเป็นประตูที่เป็นสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ในยุคศตวรรษที่ 18 เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของเยอรมนี เนื่องจากที่นี่เป็นจุดแบ่งเยอรมนีตะวันออกและตะวันตก หลังจบสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง
หลังจากออกสตาร์ท นักวิ่งจะได้พบกับ อาคารรัฐสภาของเยอรมนี (เดอะ ไรชส์ทาค The Reichstag) ซึ่งเคยเป็นสถานที่บัญชาการใหญ่สมัยอาณาจักรไรชส์ที่สามปกครองเยอรมนี ซึ่งภายในนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปชมโดมข้างบน และจะได้พบกับวิวรอบกรุงเบอร์ลินในมุมกว้างจากด้านบน
ต่อด้วย สวนเทียร์การ์เตน (Tiergarten) สวนสาธารณะกว้างใหญ่ของเมือง ซึ่งมี ‘เสาชัยชนะ’ หรือ ‘เสาชัยชนะแห่งเบอร์ลิน’ (Berlin Victory Column) อยู่ตรงกลาง ซึ่งยอดเสาชัยชนะจะมีรูปปั้น วิกตอเรีย เทพธิดาแห่งชัยชนะ ซึ่งมีน้ำหนัก 35 ตัน โดยคนท้องถิ่นตั้งฉายาว่า Golden Elsie และ ผู้หญิงที่หนักที่สุดในเบอร์ลิน
เสาชัยชนะแห่งเบอร์ลินนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1864 และใช้เวลาสร้างถึง 9 ปีจนแล้วเสร็จในปี 1873 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะทั้ง 3 ครั้ง ที่กองทัพปรัสเซีย (เยอรมันในขณะนั้น) มีชัยชนะเหนือเดนมาร์ก, ออสเตรีย และฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การรวมชาติระหว่างราชอาณาจักรปรัสเซียและเยอรมนีเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นจักรวรรดิ เยอรมันในปี 1871 เสาชัยชนะแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของสังคมและวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน
จัตุรัสพอสดัมเมอร์ พลัตซ์ (Potsdamer Platz) บริเวณที่เคยเป็นที่ตั้ง ‘กำแพงเบอร์เบอร์ลิน’ กั้นเบอร์ลินตะวันออกและตะวันตก ซึ่งในบริเวณนี้ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือว่าเป็นบริเวณที่มีความเจริญรุ่งเรือง แต่ในช่วงสงครามโลก ตึกรามบ้านช่องต่างก็ถูกทิ้งระเบิดจนแทบไม่เหลือหลักฐานของความรุ่งเรืองในอดีต รวมถึงช่วงสงครามเย็นที่เยอรมนีถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ในบริเวณนี้จึงถูกทิ้งร้าง แต่หลังจากที่กำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงในปี 1989 ทางกรุงเบอร์ลินก็เริ่มโครงการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ จนทุกวันนี้เป็นหนึ่งในย่านที่มีความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง
พระราชวังชาร์ลอตเตนบูร์ก (Charlottenburg) ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่บรรดานักวิ่งจะมีโอกาสได้สัมผัสระหว่างการแข่งขัน โดยพระราชวังแห่งนี้ถือเป็นพระราชวังเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในกรุงเบอร์ลิน สร้างในปี 1705 และมีลักษณะเป็นแบบอย่างสถาปัตยกรรมบาโรกและโรโกโก แม้ว่าจะโดนทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ทางเบอร์ลินก็ได้บูรณะซ่อมแซมใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ตามเส้นทางแข่งขันยังมีศาลากลางเมืองโชนเบิร์ก (Schoneberg) และสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเบอร์ลิน ซึ่งเชื่อว่าหลังจากจบการแข่งขัน นักวิ่งจะไม่พลาดโอกาสไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้อย่างใกล้ชิดแน่นอน
Berlin Marathon ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรายการที่น่าสนใจสำหรับนักวิ่งทั่วโลก เพราะเราเชื่อว่า ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการได้วิ่งท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่สร้างประเทศเยอรมนีมาจนถึงทุกวันนี้
อ้างอิง:
- ติดตามภาพบรรยากาศ เบอร์ลิน มาราธอน ครั้งล่าสุดได้ที่ www.facebook.com/berlinmarathon และ www.facebook.com/bmwultimatejoy