เชื่อเหลือเกินว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยในปัจจุบันต่างก็หลงใหลและชื่นชอบในกิจกรรมใต้น้ำกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำแบบ Snorkeling (น้ำตื้น), Scuba (น้ำลึก), ฟรีไดฟ์, การบำบัดใต้น้ำ หรือโยคะใต้น้ำ เป็นต้น
ลองสังเกตดูง่ายๆ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็ได้ว่า ในช่วงวันหยุดพักผ่อนเสาร์-อาทิตย์ หรือหยุดยาวนักขัตฤกษ์ เพื่อนรอบตัวของคุณอย่างน้อยหนึ่งคนน่าจะมีสักคนที่เป็นแฟนของกีฬาหรือการทำกิจกรรมใต้น้ำข้างต้น ผ่านการที่พวกเขาหรือเธอมักจะทำคอนเทนต์อัปโหลดลง Instagram, Reels หรือ TikTok อยู่เป็นประจำเป็นแน่!
ภาพการทำงานใต้ท้องมหาสมุทร
ที่ได้รับความร่วมมือในรูปแบบพันธสัญญาแห่งการอนุรักษ์ท้องทะเล
ภายใต้โครงการ Blancpain Ocean Commitment
ทำไมกิจกรรมใต้น้ำถึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวคนไทย
อันที่จริงความนิยมของกิจกรรมใต้น้ำเป็นที่แพร่หลายในเทรนด์ไลฟ์สไตล์คนไทย ตลอดจนนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เนื่องจากภูมิอากาศประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ขณะเดียวกันด้วยลักษณะภูมิประเทศที่สวยงาม ทะเลที่สวยสะกดจิตสะกดใจ ก็เอื้อต่อการที่ทำให้กิจกรรมเหล่านี้กลายเป็นที่นิยมได้ไม่ยาก
เพียงแต่ในช่วงหลังยุคโควิดเป็นต้นมา การที่ผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ตัวเองไปพอสมควร ประกอบกับคนจำนวนมากมีความตื่นตัว ใคร่ที่จะออกไปทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ต่างออกไปให้ตนเอง ทั้งเพื่อเป็น Achievement Unlocked (ปลดล็อกความสำเร็จส่วนตัว) หรือสร้างคอนเทนต์บนโลกโซเชียล ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีส่วนที่ทำให้กระแสความนิยมของการทำกิจกรรมในโลกใต้น้ำพุ่งพรวดขึ้นอย่างมีนัย
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ยังสอดคล้องกับการเปิดเผยเทรนด์ท่องเที่ยวประจำปี 2024 โดยเว็บไซต์ Booking.com ที่ได้ยกให้ ‘We’ll dive into retreats and cooler waters’ หรือเทรนด์การท่องเที่ยวด้วยการหนีร้อนไปพึ่งน้ำเย็น เป็นหนึ่งในเทรนด์น่าจับตาของปีนี้!
ในข้อมูลระบุเอาไว้ว่า ด้วยสภาพภูมิอากาศทั่วโลกที่นับวันก็มีแต่จะร้อนมากขึ้น อุ่นมากขึ้น ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 เลือกหาทางออกด้วยการคลายร้อนผ่านกิจกรรมที่ทำได้ทางน้ำ เพราะมองว่าเป็นวิธีที่เห็นผลเร็วและทำได้ง่ายที่สุด
นี่จึงเป็นเหตุผลประกอบเบื้องต้นที่ว่า เหตุใดกิจกรรมใต้น้ำถึงฮิตและเป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงเป็นพิเศษ
นอกเหนือจากคลายร้อน ทำได้ง่าย ที่เหลือทั้งหมดแบบไม่หารคือ ‘ความหลงใหล’ (Passion)
เราดำน้ำ ฟรีไดฟ์ สกูบา ทั้งหมดไม่ใช่เพื่อเพราะคลายร้อนอย่างเดียวเท่านั้น แต่แรงขับสำคัญก็คือ ความรัก ความชื่นชอบ และความหลงใหลที่ผู้คนต่างก็มีต่อการได้ปล่อยให้ร่างกายได้เป็นอิสระแหวกว่ายตามกระแสน้ำใต้ผิวน้ำ ได้โฟกัส มีสมาธิกับตัวเอง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไร้เสียงหรือสิ่งรบกวน
เช่นเดียวกันกับเหล่านักดำน้ำและนักสำรวจโลกใต้น้ำมืออาชีพ ที่ต่างก็มีความหลงใหลต่อโลกใต้ท้องทะเลและผืนมหาสมุทรไม่แพ้กัน
และด้วยความหลงใหลที่พวกเขามี บวกกับอาชีพหลักที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในน้ำเป็นกิจวัตร นั่นจึงทำให้เหล่านักดำน้ำและนักสำรวจโลกใต้น้ำจำเป็นจะต้องมี ‘เครื่องมือคู่ใจ’ ที่พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกๆ งานของพวกเขาดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไร้อุปสรรค และทำให้ทุกๆ ภารกิจแม่นยำและเที่ยงตรงมากกว่าที่เคย!
นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้นักดำน้ำและนักสำรวจโลกใต้น้ำได้โคจรมาพบกับแบรนด์ผู้ผลิตเรือนเวลาระดับโลกอย่าง Blancpain
Blancpain Fifty Fathoms เรือนแรก
ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในการดำน้ำอย่างแท้จริง
ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 71 ปีที่แล้ว ในปี 1953 Blancpain ในฐานะผู้ผลิตเรือนเวลาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำอย่างแท้จริงเรือนแรกของโลกออกมาภายใต้ชื่อโมเดล ‘Fifty Fathoms’ เพื่อมุ่งตอบโจทย์การใช้งานจริงของเหล่านักดำน้ำและนักสำรวจโลกใต้มหาสมุทรโดยเฉพาะ
ความพิเศษและยูนีกของ Blancpain Fifty Fathoms คือการที่เรือนเวลาดำน้ำโมเดลนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยอดีตซีอีโอของแบรนด์ในยุค 50 อย่าง ฌ็อง-ฌากส์ ฟิชแตร์ ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในนักดำน้ำยุคแรกๆ ที่หลงใหลในการผจญภัยใต้ท้องมหาสมุทรอีกด้วย
จุดนี้เองที่ทำให้ Blancpain Fifty Fathoms กลายเป็นเรือนเวลาเพื่อนักดำน้ำและการสำรวจท้องทะเลอย่างแท้จริง เพราะถูกรังสรรค์ขึ้นจากอินไซต์และความต้องการในมุมมองของนักดำน้ำตัวจริง ผลลัพธ์ที่ได้ก็เช่น การที่ Blancpain Fifty Fathoms มีการนำขอบหน้าหมุนได้เพื่อจับเวลาดำน้ำมาใช้เป็นครั้งแรก หรือการดีไซน์ที่ใช้หน้าปัดสีเข้มตัดกับสารเรืองแสงที่ใช้บอกเวลาในที่มืด เนื่องจากยิ่งดำลงไปลึกเท่าไร แสงที่จะทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ใต้ทะเลหรือมหาสมุทรก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น ตลอดจนความสามารถในการกันน้ำได้เป็นอย่างดี
คำแนะนำสำหรับการใช้งานขอบหน้าปัดจับเวลาของ
Blancpain Fifty Fathoms รุ่นดั้งเดิม
จะว่าไป Fifty Fathoms ก็ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่นำมาสู่การพัฒนาการดำน้ำแบบสกูบาที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งใน Activity ยอดนิยมของผู้คนในยุคปัจจุบันตามที่เราได้เกริ่นไปในตอนต้นเช่นกัน ทั้งยังเป็นแม่แบบของเรือนเวลาดำน้ำของโลกนาฬิกาในช่วงเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ไม่เพียงเท่านั้น หลังปล่อย Fifty Fathoms ออกมา Blancpain ก็ยังคงทำงานร่วมกันกับเหล่านักดำน้ำและหน่วยรบประดาน้ำจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งหน่วยงานด้านการสำรวจโลกใต้น้ำอย่างไม่ลดละ
โดยนอกเหนือจากการพัฒนา Fifty Fathoms รุ่นใหม่ๆ ออกมา สิ่งที่เราได้เห็นเพิ่มเติมก็คือ ความร่วมมือในรูปแบบพันธสัญญาแห่งการอนุรักษ์ท้องทะเลของ Blancpain ภายใต้ชื่อ Blancpain Ocean Commitment ที่ทางแบรนด์ได้ให้การสนับสนุนในทุกรูปแบบ เพื่อให้การทำงานด้านการสร้างความตระหนักรู้ สำรวจ และอนุรักษ์ท้องทะเล
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบมวลรวมที่ทำให้ Blancpain Fifty Fathoms เป็นทั้งจุดตั้งต้นของการสำรวจใต้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และกลายเป็นหนึ่งในต้นกำเนิดของเทรนด์ไลฟ์สไตล์อย่างการดำน้ำสกูบา เรื่อยไปจนถึงการผลักดันให้กิจกรรมใต้ผืนมหาสมุทรและใต้ท้องทะเลกลายเป็นพื้นที่ที่มนุษย์สามารถไปเยี่ยมเยือนได้อย่างยั่งยืน
แล้วในปีที่ 71 ของนาฬิกาดำน้ำอย่างแท้จริงเรือนแรกของโลกอย่าง Blancpain Fifty Fathoms จะมีความพิเศษอะไรรอเราอยู่กันแน่?
Fifty Fathoms Automatique สานต่อตำนานนาฬิกาดำน้ำ ด้วยกลไกอันทรงประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่โดดเด่นยิ่งกว่าที่เคย
ในปี 2024 ทางแบรนด์ได้สานต่อตำนานของนาฬิกาดำน้ำ Fifty Fathoms ด้วยการเปิดตัวเรือนเวลารุ่น Fifty Fathoms Automatique ขนาด 42 มม. ออกมาสู่ท้องตลาด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเหล่านักดำน้ำและผู้ที่มีใจหลงใหลหรือชื่นชอบในกิจกรรมใต้ท้องทะเลและผืนมหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง
นาฬิกามาพร้อมกับขอบหน้าปัดแบบแซฟไฟร์ที่เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของโมเดล โดดเด่นด้วยวัสดุตัวเรือนแบบ ‘เรดโกลด์’ และ ‘ไทเทเนียมเกรด 23’ เพื่อขับฟีลลิ่งความน่าหลงใหลและความหรูหราให้กับเรือนเวลาเรือนนี้ พร้อมๆ กับการหยอดดีไซน์ที่สามารถใส่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์ทั่วไปอย่างเท่ไม่หยอก
สายตัวเรือนเวลามีให้เลือกหลากหลายนอกเหนือจากสายไทเทเนียม โดยมีทั้งสายผ้าใบ สายยางแบบ Tropic หรือสายแบบ Nato ตามจุดประสงค์ของการใช้งานในแต่ละโอกาส ซึ่งสายแต่ละแบบก็สามารถเปลี่ยนฟีลลิ่งและคาแรกเตอร์ของเรือนเวลา Fifty Fathoms Automatique ได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือสรุปรวมง่ายๆ ว่า แค่เปลี่ยนสายก็สามารถเปลี่ยนลุคการแต่งตัวให้สนุกขึ้นได้แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ไทเทเนียมเกรด 23 ที่ Blancpain เลือกใช้ยังถือเป็นไทเทเนียมเกรดบริสุทธิ์ที่สุดเมื่อเทียบกับวัสดุไทเทเนียมด้วยกัน ซึ่งจะให้น้ำหนักที่เบา ทนทาน มีความแข็งแกร่ง ป้องกันรอยขีดข่วนหรือการกัดกร่อนได้ดี ไร้ที่ติ โดยปกติจะถูกใช้ทางการแพทย์และการพัฒนาอากาศยาน
อีกจุดเด่นที่จะลืมกล่าวถึงไม่ได้เป็นอันขาดของ Fifty Fathoms Automatique คือ การใช้กลไกขึ้นลานอัตโนมัติรหัส 1315 ที่ทำหน้าที่เป็นหัวใจในการทำงานของเรือนเวลาเรือนนี้
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า กลไก 1315 ขึ้นชื่ออย่างมากในด้านการเป็นกลไกที่มั่นคง ทำงานบอกเวลาและจับเวลาได้แม่นยำสุดๆ แถมยังสามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 5 วัน ผ่านการทำงานของบาร์เรลคู่สามชุดอีกต่างหาก
ในเชิงการประกอบนั้น Fifty Fathoms ถือเป็นไลน์โมเดลเรือนเวลาของ Blancpain ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วในแง่ความพิถีพิถัน ด้วยจุดประสงค์ปลายทางของการใช้งานใต้น้ำที่ต้องนำเด่นด้วยคุณสมบัติการกันน้ำเป็นพิเศษ
สำหรับตัวเรือน Fifty Fathoms Automatique ได้รับการออกแบบ สร้าง ผลิต ประกอบ และปรับแต่ง แบบอินเฮาส์โดย Blancpain ทั้งหมด ทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาทั้งภายนอกและภายในถูกขัดแต่งอย่างพิถีพิถันตามแนวคิด Haute Horlogerie หรือหลักศาสตร์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาขั้นสูง
เรียกได้ว่าเป็นเรือนเวลาที่คิดค้นและพัฒนาต่อยอดมาเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนที่หลงใหลกิจกรรมใต้น้ำอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันก็สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่เคอะเขิน ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างามเมื่อขึ้นข้อในทุกอิริยาบถ
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของ Blancpain Fifty Fathoms Automatique สามารถศึกษาต่อได้ที่: https://www.blancpain.com/en/fifty-fathoms/fifty-fathoms-automatique-5010-12b30-b64b