×

‘BlackRock’ ชี้บริษัทยุโรปแกร่งเกินคาด พบมูลค่าหุ้นบางตัวน่าลงทุนดีกว่าในสหรัฐฯ

08.03.2023
  • LOADING...

BlackRock บริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับบริษัทเอกชนในยุโรป หลังพบว่าผลประกอบการของบริษัทในยุโรปมีความยืดหยุ่นอย่างน่าประหลาดใจในไตรมาส 4 ของปี 2022 แถมยังมีผลงานที่ดีกว่าหุ้นของบริษัทในตลาดวอลล์สตรีทของสหรัฐอเมริกา 

 

BlackRock ชี้ว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของภูมิภาคยุโรปแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของบรรดาบริษัทที่ขยายออกไปนอกภาคส่วนของธนาคารและพลังงานที่เป็นรากฐานของภูมิภาค

 

Helen Jewell รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุน EMEA ของ BlackRock Fundamental Equities กล่าวว่า บริษัทต่างๆ ในยุโรปทำให้นักวิเคราะห์ประหลาดใจด้วยผลประกอบการล่าสุด โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคดำเนินไปได้ด้วยดีตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน แต่ยังคงมีการปรับลดบ้างเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในสหรัฐฯ

 

โดยหุ้นในอุตสาหกรรมธนาคารกลางและพลังงานของยุโรปปรับตัวมากที่สุดในไตรมาส 4 ขณะที่รายได้จากดัชนี STOXX 600 ทั่วยุโรปเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ต่อปีภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แม้จะยังไม่รวมภาคพลังงานก็ตาม ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้ Jewell กล่าวว่า ยุโรปเป็นภูมิภาคเดียวของโลกที่การปรับประมาณการผลประกอบการในปี 2024 สามารถกลับมาอยู่ในแดนบวก อีกทั้งรายได้ในสหราชอาณาจักรยังสร้างความประหลาดใจในเชิงบวก แม้จะมีการปรับตามขนาดของภาคการเงินและพลังงานแล้วก็ตาม

 

ทั้งนี้ Jewell แนะนำว่าโมเมนตัมสำหรับธนาคารในยุโรปซึ่งได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยในเชิงบวกมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป แต่ Jewell ระบุว่าความแข็งแกร่งของรายได้หมายถึงอัตราส่วนราคาต่อหุ้นกับกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวสำหรับภาคส่วนนี้ โดย P/E Ratio นี้เป็นตัวกำหนดว่าบริษัทมีมูลค่าสูงหรือต่ำเกินไป โดยการวัดราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับกำไรต่อหุ้น

 

Jewell กล่าวว่า หุ้นยุโรปได้รับความชื่นชอบในด้านการเงินเมื่อกลางปีที่แล้ว และเชื่อว่าภาคส่วนนี้สามารถทำผลงานได้ดีกว่าในปี 2023 เนื่องจากธนาคารกลางยุโรปยังคงมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และอัตราที่สูงขึ้นอาจทำให้ธนาคารหลายแห่งสามารถคืนผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้

 

ในส่วนของอุตสาหกรรมพลังงาน BlackRock ระบุว่า ภาคพลังงานในสหราชอาณาจักรและยุโรปประกาศผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4 จากราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น กระนั้นราคามีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากฤดูหนาวที่ผ่านมามีอุณหภูมิที่สูงขึ้น นำไปสู่ความต้องการน้ำมันที่ต่ำกว่าที่คาดไว้

 

กระนั้นสำหรับความเคลื่อนไหวในระยะกลาง BlackRock ยังคงคาดการณ์ว่าอุปทานจะตึงตัว และเห็นว่าบริษัทน้ำมันรายใหญ่ในยุโรปยังคงสร้างกระแสเงินสดจำนวนมหาศาลได้ โดยบริษัทเหล่านี้สามารถซื้อขายพลังงานในราคาส่วนลดกับบริษัทอื่นในสหรัฐฯ และยังคงจัดสรรการลงทุนจำนวนมากสำหรับรูปแบบพลังงานหมุนเวียน

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะมีความยืดหยุ่น แต่ Jewell เน้นย้ำถึงความสำคัญของอัตรากำไรในปี 2023 เนื่องจากธนาคารกลางยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดและยุติยุคของเงินราคาถูก

 

ข้อมูลของ MSCI ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์พบว่า บริษัทในยุโรปราว 60% ทำยอดขายได้เกินคาดในไตรมาส 4 และมีบริษัทถึง 50% ที่สามารถทำกำไรได้ ซึ่งภาพที่คล้ายกันนี้กำลังเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร โดย Jewell อธิบายว่า ตัวเลขดังกล่าวทำให้ BlackRock มองเห็นโอกาสมากมายสำหรับนักลงทุนในภูมิภาคยุโรป แต่ก็เตือนนักลงทุนให้เลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่สูงยังคงมีผลกระทบต่อกำไรของบริษัทหลายแห่งในยุโรป โดยเฉพาะบริษัทที่ใช้แรงงานมาก เพราะต้องเผชิญกับต้นทุนค้าจ้างที่สูงขึ้น 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising