ซูซาน มัวร์ วัย 52 ปี แพทย์หญิงผิวดำในเมืองอินดีแอนาโปลิส รัฐอินดีแอนาของสหรัฐฯ กำลังเป็นที่พูดถึงในสังคมอเมริกัน หลังเธอได้โพสต์วิดีโอจากเตียงโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอินเดียนานอร์ธ โดยระบุว่าเธอต้อง ‘อ้อนวอน’ เพื่อขอให้หมอรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ให้เธอ
และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม) แพทย์หญิงมัวร์ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม เธอเขียนบรรยายความคับแค้นใจที่หมอไม่ใส่ใจความเจ็บปวดของเธอที่ทั้งร้องไห้และหายใจลำบาก พร้อมตัดพ้อว่าถ้าเธอเป็นคนผิวขาว เธอจะไม่ต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้
“หมอไม่แม้แต่จะฟังเสียงปอดของฉัน ไม่แตะต้องตัวฉันเลย ไม่ตรวจร่างกายใดๆ ทั้งสิ้น ฉันบอกเขาไปว่าแล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการฉันเป็นอย่างไรบ้าง”
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอินดีแอนานอร์ธออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า “ทางโรงพยาบาลยึดมั่นหลักความยุติธรรมและลดความไม่เสมอภาคทางเชื้อชาติและสีผิวด้านการรักษาพยาบาล เราจึงกังวลใจต่อข้อกล่าวหาว่าทางโรงพยาบาลเหยียดสีผิวอย่างมาก และสืบสวนทุกข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น”
ทั้งนี้ “เรายืนกรานว่าบุคลากรทางการแพทย์ของเรายึดมั่นและใช้ทักษะทางวิชาชีพเพื่อมอบการดูแลที่มีคุณภาพแก่ผู้ป่วยของเราในทุกๆ วัน”
แพทย์หญิงมัวร์ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน และเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าวด้วยอาการไข้สูง ถึงขนาดอาเจียนเป็นเลือดและหายใจไม่ค่อยออก
แต่มัวร์ชี้ว่า แม้จะเป็นหมอเหมือนกัน แต่กลับถูกดูแคลน เธอถึงกับต้องอ้อนวอนขอยา ‘เรมเดซิเวียร์’ ที่เป็นยาปฏิชีวนะต้านไวรัส และร้องขอให้สแกนตรวจหน้าอกของเธอ แต่แพทย์ของทางโรงพยาบาลกลับบอกว่าอาการของเธอไม่รุนแรงพอที่จะใช้ยาตัวดังกล่าว และเธอควรกลับบ้านไปเสีย
มัวร์กล่าวในวิดีโอว่า “เขาทำเหมือนฉันเป็นผู้ติดยาเสพติด…เขารู้ว่าฉันเองก็เป็นหมอ ฉันไม่ได้เสพยา ฉันแค่เจ็บปวด”
หลังโพสต์วิดีโอดังกล่าว แพทย์หญิงมัวร์ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเคลื่อนไหวทางการแพทย์ และขอย้ายโรงพยาบาล แต่ท้ายสุดเธอต้องกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอินดีแอนานอร์ธอีกครั้ง เพราะมีอาการความดันสูงและไข้
“นี่แหละคือวิธีที่คนผิวดำถูกสังหาร…คุณถูกส่งกลับบ้านและไม่รู้ว่าจะดิ้นรนด้วยตัวเองอย่างไร”
มัวร์โพสต์อัปเดตต่อมาในภายหลังว่า หัวหน้าทีมแพทย์ของโรงพยาบาลระบุว่า พนักงานจะได้รับการฝึกฝนด้านความหลากหลายทางเชื้อชาติ แต่กลับไม่มีคำขอโทษจากนายแพทย์ที่เธอกล่าวหาว่าเหยียดสีผิว
โพสต์และวิดีโอต่างๆ ของมัวร์ได้สร้างกระแสความไม่พอใจต่อชุมชนคนผิวดำและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในสหรัฐฯ ถึงระบบสาธารณสุขของประเทศที่ปฏิบัติต่อผู้ป่วยที่ไม่ใช่คนผิวขาวอย่างไม่เท่าเทียม
คนผิวดำในสหรัฐฯ เป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะมีแนวโน้มติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่าคนอเมริกันผิวขาวถึงสามเท่า โดยสถานการณ์แพร่ระบาดของสหรัฐฯ ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 18,700,000 คน และเสียชีวิตแล้วเกือบ 330,000 คน
ภาพ: เฟซบุ๊ก Susan Moore
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: