วันนี้ (8 ตุลาคม) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น.
ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงตรวจวัดได้ 23-46.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 16 พื้นที่ คือ
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81: มีค่าเท่ากับ 46.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน): มีค่าเท่ากับ 44.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยถนนเซนต์หลุยส์: มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.
- สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา: มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหสวรรย์: มีค่าเท่ากับ 41.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย: มีค่าเท่ากับ 41.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า: มีค่าเท่ากับ 41.3 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ: มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน: มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน: มีค่าเท่ากับ 39.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด: มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2: มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ: มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ: มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี: มีค่าเท่ากับ 38.1 มคก./ลบ.ม.
- สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ: มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.
กรุงเทพมหานครแนะนำประชาชนทั่วไปใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง ปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 8-16 ตุลาคม 2567 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ไม่ดี
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเกิดฝนตกตลอดช่วง และเนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนตอนใต้ ทำให้เกิดภาวะ Inversion คือการที่อากาศด้านบนกดทับอากาศด้านล่าง ส่งผลให้มลพิษไม่สามารถลอยขึ้นไปได้ และลมที่พัดเบา ประกอบกับชั้นอากาศที่สามารถผสมกันได้มีความสูงน้อย จึงทำให้อัตราการระบายอากาศไม่ดี ทำให้มลพิษสะสมอยู่ในอากาศเพิ่มขึ้น
จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียมจาก NASA ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่อย่างไรก็ตาม จังหวัดด้านเหนือของกรุงเทพมหานครไปถึงภาคกลางตอนล่างเริ่มมีจุดความร้อนเกิดมากขึ้น คือมีการเผาชีวมวลจากการเกษตร ประกอบกับมีลมจากตะวันออกเฉียงเหนือพัดลงมา สามารถนำพาเอาฝุ่น PM2.5 จากนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้ามาทางด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานครได้ ทำให้พื้นที่ด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานครมีฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้นในช่วงนี้
อ้างอิง:
- ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร
- กรมอุตุนิยมวิทยา
- สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)