วันนี้ (2 พฤษภาคม) รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 7 ลงพื้นที่หาเสียงในชุมชนคลองบางหลวง เขตภาษีเจริญ เพื่อรับฟังปัญหาปากท้องของชาวบ้านในหมู่บ้านศิลปิน พร้อมล่องเรือตรวจดูน้ำเสียภายในคลองภาษี และปัญหาตลิ่งทรุด และการจัดการขยะ
หลังจากนั้นรสนาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงปัญหาน้ำเน่าเสีย โดยระบุว่าสาเหตุหลักมาจากการจัดการขยะที่ไม่ได้ผล โดยชาวบ้านยังทิ้งขยะลงในลำคลอง ทำให้เป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ผ่านมา กทม. ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งตนมองว่าหากน้ำใสขึ้นจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะใช้นโยบายที่สอดรับกับประชาชนโดยเร็ว พร้อมยอมรับว่าถ้าไม่ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่ได้เห็นปัญหาที่ซุกอยู่ในซอกหลืบของกรุงเทพฯ เมื่อตัดสินใจมารับใช้คนกรุงเทพฯ เเล้ว จึงอยากยกระดับชีวิตคนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
รสนากล่าวอีกว่า ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ใน 100 วันแรก นโยบายที่จะทำได้ทันทีคือแก้ปัญหาน้ำท่วม ฝนแรกของฤดูที่ตกลงมาจะต้องไม่มีน้ำท่วมขัง แม้ว่าปัญหาน้ำท่วมจะเกิดขึ้นซ้ำซาก ไม่เคยมีใครทำได้ แต่ถ้าคิดและบริหารอย่างจริงจังเชื่อว่าน้ำจะไม่ท่วมอย่างแน่นอน และนโยบายต่อมาจะรื้อระบบการจัดการขยะ ด้วยการเปิดสัญญาจัดจ้างเอกชนที่เข้ามารับสัมปทานกำขัดขยะให้คนกรุงเทพฯ เห็นแบบชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีอีกนโยบายที่จะดำเนินการแน่นอน คือการยกเลิกต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว เนื่องจากเป็นต้นตอของค่ารถไฟฟ้าแสนแพง และคนกรุงเทพฯ ต้องโอดครวญ หากคนกรุงเทพฯ เลือกตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนขอยืนยันว่าจะดำเนินการทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงผลสำรวจโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลายสำนัก พบว่ารสนาไม่ติดอันดับเลยนั้น ทางรสนาบอกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อถือโพล เนื่องจากมองว่าเป็นความเห็นของคนกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่เห็นว่าใช้ปัจจัยใดในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง และไม่ได้สะท้อนเสียงของคนกรุงเทพฯ ทั้งหมด
“โพลเลือกถามแค่ 3,000 คน เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้มันไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าโพลจะตรงหรือไม่ตรง อะไรมันก็ไม่แน่นอน ดิฉันเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ มีวิจารณญาณ” รสนากล่าวในที่สุด
รสนากล่าวต่อไปว่า โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งจะมีการปรับกลยุทธ์การหาเสียงให้เข้มข้นมากขึ้น โดยจะเผยแพร่ผ่านคลิปที่พูดถึงการปราบโกงให้มากขึ้น เนื่องจากเอกลักษณ์ของตนตั้งแต่สมัยเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) คือเรื่องการปราบปรามทุจริต
ส่วนปัญหารถติดที่มีเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าอยากให้ผู้ว่าฯ กทม. แก้ปัญหามากที่สุดนั้น รสนายอมรับว่าเรื่องนี้เป็นมหากาพย์ของปัญหาและมีความผูกพันกับหลายส่วน ซึ่งปัญหาหลักมาจากการที่กรุงเทพฯ มีถนนน้อยสวนทางกับจำนวนรถ ดังนั้นการแก้ปัญหารถติดจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยตนมองว่าต้องปรับกลยุทธ์ในการทำผังเมือง ถนนที่แคบจะต้องจำกัดการสร้างอาคาร เพื่อให้พื้นที่เดินรถมีปริมาณเพียงพอ หากตนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ จะดำเนินการเพิ่มการสัญจรทางน้ำ รวมไปถึงเรื่องล้อรางเรือ เพื่อเพิ่มทางเลือกเส้นทางสัญจรให้ประชาชนและบรรเทาปัญหาการจราจรไปในตัว