วันนี้ (11 พฤษภาคม) ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พีรพล กนกวลัย หรือเฮียเล้า ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตพญาไท เดินทางมายังศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อฟังการไต่สวนของศาลปกครองนัดแรก กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไม่ประชาสัมพันธ์ชื่อ-หมายเลขของพีรพล หน้าหน่วยเลือกตั้ง ทั้งที่ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาแล้ว
ชัยธวัชกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งทุเลาการประกาศไม่รับสมัคร พีรพล กนกวลัย ในฐานะผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หมายเลข 7 เขตพญาไท พรรคก้าวไกล ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ตามคำสั่งทุเลาของศาลปกครอง อาทิ กรณีไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัครของพีรพลหน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยของเขตพญาไท ซึ่งยังปรากฏติดอยู่ว่า กกต. ไม่รับสมัคร จึงมายื่นคำร้องนำมาสู่การไต่สวนในวันนี้
ชัยธวัชกล่าวต่อไปว่า ในการไต่สวนทางตัวแทนของ กกต. และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครอ้างว่า สาเหตุที่ไม่ได้ดำเนินการเพราะไม่มีกฎหมาย ไม่มีระเบียบ รวมไปถึงไม่มีแบบฟอร์มให้ดำเนินการตามคำสั่งทุเลาของศาลปกครอง และได้อ้างเพิ่มเติมว่าขณะนี้ กกต. ได้อุทธรณ์คำสั่งทุเลาไปแล้ว จึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
“ศาลปกครองมีคำสั่งชัดเจนว่า ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครดำเนินการตามคำสั่งทุเลาโดยทันที คือ ต้องออกประกาศรับสมัคร พีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก. เขตพญาไท เบอร์ 7 ของพรรคก้าวไกล ให้เป็นผู้สมัคร และให้ติดประกาศเป็นผู้สมัครไว้ที่บอร์ดหน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยของเขตพญาไทให้เสร็จสิ้นภายในพรุ่งนี้ (12 พฤษภาคม)” ชัยธวัชกล่าว
ชัยธวัชกล่าวต่อไปว่า ตัวแทนของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครได้แจ้งต่อศาลในการไต่สวนว่า สามารถดำเนินการได้ทันทีภายในวันนี้ ดังนั้นตนจะดูว่ามีการดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันนี้หรือไม่ เนื่องจากเหลือเวลาเพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันเลือกตั้ง จะส่งผลเสียหายต่อผู้สมัครของพรรคก้าวไกล
โดยศาลปกครองได้ขอความร่วมมือจาก กกต. ในการขอขยายพิจารณาคดีออกไป การให้เหตุผลว่าต้องการรวบรวมหลักฐานและพยานนั้น ศาลเห็นว่าเรื่องนี้ กกต. ควรพิจารณาตั้งแต่วันประกาศรับสมัครพีรพล จึงควรวินิจฉัยและพิพากษาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565
ทั้งนี้ในประเด็นที่ กกต. ระบุว่าอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ ศาลปกครองชี้ว่าไม่เป็นเหตุในการทำให้คำสั่งทุเลาสิ้นสุดลงในเรื่องดังกล่าว ต้องไปต่อสู้กันจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งมีคำพิพากษาออกมา
“ดังนั้นหากผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครไม่ดำเนินการออกมาตามคำสั่งศาลในวันนี้อีก คือ ไม่ปิดประกาศรับสมัครพีรพลเป็นผู้สมัคร ส.ก. เขตพญาไท หมายเลข 7 ของพรรคก้าวไกล รวมถึงไม่ติดประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยของเขตพญาไทภายในวันพรุ่งนี้ ทางพรรคก้าวไกลจะพิจารณาและดำเนินคดีตามมาตรา 157 ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป” ชัยธวัชกล่าว
เลขาธิการพรรคก้าวไกลกล่าวเพิ่มเติมว่า พีรพลเป็นผู้สมัคร ส.ก. ที่ได้รับความยอมรับจากพี่น้องประชาชนในเขตพญาไทอย่างมากจากการทำงานในพื้นที่ในช่วงโควิด 2 ปีที่ผ่านมา หากไม่มีการดำเนินการตามคำสั่งทุเลาของศาล จะทำให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครอาจถูกมองว่าไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง
“เราอยากเห็นการดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่สุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม ไม่มีพฤติการณ์ใดที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราอยากเห็นการเลือกตั้งที่มันควรจะเป็น” ชัยธวัชกล่าว
ด้านพีรพลระบุว่า เนื่องจากศาลปกครองได้มีคำสั่งทุเลาเรียบร้อยแล้ว เท่ากับตนได้เป็นผู้สมัคร ต้องดำเนินการตามปกติโดยไม่ต้องมีแบบฟอร์มใดๆ ที่ผ่านมาตนได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ จากการที่ตนหาเสียงเต็มที่ไม่ได้และไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะ กกต. อ้างว่าไม่รับรองเป็นผู้สมัคร ส.ก. ในขณะนี้เหลือเวลาเพียง 10 กว่าวันเท่านั้น ตนเสียหายทั้งชื่อเสียงและเสียโอกาส หาก กกต. ยังนิ่งเฉย จะดำเนินคดีอีกหลายคดีแน่นอน พร้อมกันนี้ขอให้ประชาชนในเขตพญาไทได้รับทราบว่าตนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. หมายเลข 7 เขตพญาไท ในนามพรรคก้าวไกลแล้ว ตามคำสั่งศาลปกครองที่ได้มีคำสั่งทุเลา
ขณะที่ สุพจน์ หล้าจำศีล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การประกาศรับสมัครเป็นหน้าที่ของปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร และแต่เดิมศาลปกครองได้มีคำสั่งทุเลาการประกาศไม่รับสมัครพีรพลมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งเมื่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครได้ดูกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็พบว่าไม่มีแบบพิมพ์หรือรูปแบบใดที่จะให้ประกาศรับสมัครพีรพล จึงได้ทำหนังสือหารือไปที่เลขาธิการ กกต. และยังไม่มีการตอบแนวทางปฏิบัติกลับมา ทำให้พีรพลไปยื่นคำร้องต่อศาลอีกครั้งหนึ่ง และวันนี้ศาลจึงได้เชิญผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร และ กกต. ไปสอบถามข้อมูล ซึ่งตนก็ได้ไปเป็นตัวแทนของผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครด้วย และได้นำเรียนต่อศาลว่ากรณีที่ศาลสั่งนั้น ตามระเบียบกฎหมายไม่มีรูปแบบหรือแบบพิมพ์ใดในการประกาศรับสมัคร โดยแต่เดิมผู้สมัครรายอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติจะประกาศไว้ตามแบบ ส.ถ. 4/4 และ ส.ถ. 4/5
ทำให้วันนี้ศาลระบุว่าให้ใช้แบบ ส.ถ. 4/4 และ ส.ถ. 4/5 ในการประกาศรับสมัครพีรพล โดยในแบบ ส.ถ. 4/4 ให้เพิ่มในช่องรับสมัคร และให้ระบุไว้ว่าเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่ 825/2565 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 และให้ส่งไปยังเขตพญาไทติดประกาศที่หน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตนก็ทำเอกสารไว้เรียบร้อยแล้ว และในช่วงบ่ายวันนี้จะให้เขตพญาไทมารับเอกสารไปติดประกาศ โดยมีแบบ ส.ถ. 4/4 เพิ่มเติม ตลอดจนแบบ ส.ถ. 4/5 และคำสั่งศาลด้วย ซึ่งก็จะเป็นแนวปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ สุพจน์เสริมว่าพีรพลได้สอบถามมาที่ตนทุกวัน ซึ่งตนก็แจ้งว่าหารือกับทางเลขาธิการ กกต. อยู่ แต่ยังไม่ได้คำตอบ ตนก็เข้าใจอยู่ว่าผู้สมัครต้องการหาเสียงและได้เร่งรัดให้