การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ในวันนี้ (20 พฤษภาคม) เริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมาได้บ้าง หลังจากที่ร่วงลงไปอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยราคาบิตคอยน์ล่าสุดพยายามขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ระดับ 4 หมื่นดอลลาร์ ขณะที่อีเทอเรียมรีบาวด์ขึ้นมาอยู่ในระดับ 2,611 ดอลลาร์ และโดชคอยน์ที่ราคาเคลื่อนไหวในระดับ 0.357 ดอลลาร์
ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย CEO and Founder at Bit Investment มีมุมมองว่า การร่วงลงอย่างหนักของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นอารมณ์ปกติของตลาดคริปโตฯ ซึ่งแนะนำให้นักลงทุนทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานของคริปโตฯ แต่ละสกุล รวมถึงเข้าใจเป้าหมายการลงทุนของตัวเองด้วย
ศุภกฤษฎ์กล่าวผ่านรายการ MORNING WEALTH ของ THE STANDARD WEALTH ว่า สภาวการณ์ล่าสุดที่ราคาคริปโตฯ ปรับลดลงอย่างหนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนรู้สึกไม่มั่นใจเลยขายออกไป โดยจากสถิติของ Non Zero Address ซึ่งคือกระเป๋าที่เก็บบิตคอยน์นั้น ล่าสุดพบว่าลดลง 2.8% สะท้อนว่ามีคนไม่มั่นใจเพิ่มและขายออกไป ทั้งนี้ประเมินว่าคนที่เริ่มขายออกจากตลาดน่าจะเป็นนักลทุนที่เข้ามาด้วยอารมณ์จึงออกด้วยอารมณ์ อาจจะไม่ได้เข้าใจพื้นฐานจริงๆ ของคริปโตฯ
ขณะเดียวกันเชื่อว่านักลทุนที่เคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้ (ราคาลดลงอย่างหนัก) มาก่อน จะเข้าใจแพตเทิร์นของราคาในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญคือนักลงทุนต้องชัดเจนว่ามีมุมมองอย่างไรกับคริปโตฯ และมีเป้าหมายลงทุนอย่างไรมากกว่า หากเข้าใจได้ดีแล้วจะไม่หวั่นไหวกับอารมณ์ของตลาดในปัจจุบัน
“ตอนที่เข้ามาแรกๆ ก็ทำใจแล้วว่าต้องรับความสูญเสียได้ แต่เมื่อพอร์ตลดลงมาก ยอมรับว่าหวั่นไหวเหมือนกัน แต่เมื่อผ่านมาได้แล้วจะมีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่ง” ศุภกฤษฎ์กล่าว
สำหรับประเด็นความเสี่ยงจากกฎระเบียบของจีน มองว่าจะชะลอการเติบโตของตลาดคริปโตฯ แต่อย่างไรก็ตามในเชิงสถิติจะเห็นว่าภาพรวมของคนที่เข้ามาลงทุนในบิตคอยน์และตลาดคริปโตฯ กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนการใช้ข้อมูลปั่นความเคลื่อนไหวราคาของนักลงทุนชื่อดังอย่าง อีลอน มัสก์ นั้น มองว่าเป็นปัจจัยชั่วคราวที่ทำให้ราคาคริปโตฯ เกิดความผันผวน แต่หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบิตคอยน์และคริปโตฯ อื่นๆ จะพบว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป การใช้ข้อมูลข่าวสารของ อีลอน มัสก์ แค่จุดความสนใจขึ้นเท่านั้น
สำหรับการประเมินเชิงพื้นฐาน ส่วนตัวจะมอนิเตอร์ด้วยตัวชี้วัดหนึ่ง คือค่า NVT (Network Value to Transaction) ซึ่งจะคำนวณด้วย Market Capitalize มาเทียบ Ratio ของ Volume ของตัว Value ที่โอนไปมา เปรียบเป็นหุ้นก็เหมือนค่า P/E ซึ่งเมื่อนักลงทุนมีข้อมูลพื้นฐานที่เชื่อถือแล้วจะช่วยตัดอารมณ์ออกจากการลงทุนได้ดี
“ตลาดนี้มันเป็น Open Market ใครจะมาปั่นก็ได้ แต่ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย อย่าง อีลอน มัสก์ ที่ออกมาทำแบบนี้ ก็ทำให้เขาเสื่อมความน่าเชื่อถือลงไปเหมือนกัน”
ทั้งนี้ฝากถึงนักลงทุนว่าทุกคนควรจะเรียนรู้ ไม่ว่าจะได้รับผลบวกหรือลบก็ตาม สำหรับคนที่เสียหายก็ต้องกลับมาเรียนรู้ให้ได้ว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ผิดพลาดซ้ำอีก แต่ถ้าเลือกที่จะออกจากตลาดไป นั่นเท่ากับคุณปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
