เป็นไปได้จริงหรือที่คนเราจะรักษาร่างกายและคงความเป็นหนุ่มสาวเอาไว้ได้ ทั้งที่อายุเดินทางไกลขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ THE STANDARD ทราบข่าวว่ามีศูนย์สุขภาพแห่งหนึ่งได้ชูประเด็นชะลอวัยด้วยฮอร์โมนธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทยเป็นจุดเด่น จึงไม่รอช้าที่จะนัดหมาย คุณธนวัฒน์ เรวัตบวรวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปของ เวอริตา เฮลท์ มหานคร เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที

     ต่อไปนี้คือคำบอกเล่าเกี่ยวกับบริการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน ผ่านศาสตร์การชะลอวัยโดยใช้ฮอร์โมนจากธรรมชาติ (Bioidentical Hormones) เพื่อคงความหนุ่มสาวให้ยาวนานขึ้น

 

อะไรคือศาสตร์ชะลอวัย

     “คำว่าศาสตร์ชะลอวัยในเมืองไทย เวลาคนส่วนใหญ่ได้ยินอาจจะนึกไปถึงเรื่องเชิงความงามเสียเยอะ แต่ศาสตร์ชะลอวัยสำหรับเรา หมายถึง จะทำอย่างไรให้เราแก่ช้าลง ทำอย่างไรจะชะลอการแก่ให้เกิดขึ้นช้าที่สุด แน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไป ตัวเลขอายุก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ คำถามคือ เราจำเป็นต้องแก่ไปตามอายุไหม? หลายคนก็คงไม่อยากใช่ไหมครับ หากเป็นเมื่อก่อนเราอาจไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ปัจจุบันมีแพทย์หลายท่านที่ค้นพบ และมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องสลับซับซ้อนอะไร ที่สำคัญคือพิสูจน์แล้วว่ามันได้ผลจริง ซึ่งการจะชะลอวัยได้นั้นมีกุญแจสำคัญอยู่ดอกหนึ่งที่เรียกว่าความยาวของ ‘เทโลเมียร์’ (Telomere) ซึ่งเป็นดีเอ็นเอที่อยู่ส่วนปลายสุดของโครโมโซมของคนเรา

     “ตอนแรกเกิดมนุษย์จะมีเทโลเมียร์ที่มีขนาดยาว แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ความยาวเทโลเมียร์ก็จะสั้นลงสวนทางกับอายุที่มากขึ้น ซึ่งมันก็จะมีวิธีการหลายอย่างที่พิสูจน์ได้ว่า หลังจากที่เราทำทรีตเมนต์ดูแลสุขภาพผ่านศาสตร์ชะลอวัยแล้ว มันช่วยชะลอการหดลงของเทโลเมียร์ได้ ซึ่งการค้นพบนี้เกิดมาหลายปีแล้ว แต่ปัจจุบันเราพบเพิ่มเติมว่า นอกจากจะชะลอการหดของเส้นเทโลเมียร์ได้แล้ว เรายังสามารถยืดเทโลเมียร์ให้กลับไปยาวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งได้ด้วย ดังนั้นคำว่าชะลอวัยสำหรับเราไม่ได้แปลว่าหยุดอย่างเดียว แต่มันหมายถึงการรีเวิร์สย้อนวัยกลับไปได้อีกครั้งหนึ่ง”

 

 

หัวใจสำคัญ = ปรับสมดุลฮอร์โมน

     “สาเหตุทั่วไปที่คนเราแก่เร็วขึ้นนั้นเป็นเพราะว่า ร่างกายของเราเหนื่อยมาก สารอาหารมีไม่เพียงพอ ร่างกายก็พยายามเหลือเกินที่จะดึงเอาตรงโน้นตรงนี้มาใช้ มันก็โทรมเร็ว แม้แต่มลภาวะที่มากเกินไปก็เป็นสาเหตุให้แก่เร็วเหมือนกัน หากจัดการตรงนี้ได้ โอกาสแก่ก็จะน้อยลง ซึ่งความสำคัญจึงหมายถึงการปรับสมดุลฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนมีผลต่อความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แข็งแรง มีผลต่อความสุขในการใช้ชีวิต ยิ่งถ้าฮอร์โมนเราอยู่ในระดับที่สมดุล เราก็จะมีความกระปรี้กระเปร่า เราจะไม่เหนื่อยง่าย เราจะไม่โทรมเร็ว โดยขั้นตอนการปรับสมดุลฮอร์โมนของเราก็จะอยู่ในโปรแกรมฮอร์โมน

     “ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการซักประวัติและตรวจสอบฮอร์โมนก่อน อย่างบางคนมีอาการเหนื่อยง่าย บางคนปวดประจำเดือนมาก บางคนมีผิวแห้งเป็นพิเศษ ซึ่งข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้บางทีมันเป็นสัญญาณบางอย่างที่อาจเป็นไปได้ว่าเกิดความผิดปกติที่เกี่ยวกับฮอร์โมน และสุดท้ายเราก็ต้องตรวจเลือดเพื่อตรวจวัดฮอร์โมนว่าฮอร์โมนแต่ละตัวเป็นอย่างไรบ้าง พอเช็กประวัติและตรวจเลือดแล้ว เราก็จะได้ค่าตั้งต้นแล้วว่าคนที่มาตรวจเขามีปัญหาอะไรบ้าง คุณหมอก็จะเริ่มต้นวางแผนการรักษา”

 

แนวการรักษาด้วยฮอร์โมน

     “วิธีที่ง่ายที่สุดคือการทดแทนฮอร์โมน อธิบายง่ายๆ คือ เมื่อตรวจพบว่าคุณขาดฮอร์โมนอะไร เราก็จะเติมเต็มฮอร์โมนตัวนั้น ซึ่งบริการใหม่ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยนี้ ใช้ฮอร์โมนจากธรรมชาติในการฟื้นฟูและช่วยชะลอวัยอย่างได้ผล ซึ่งมันก็มีวิธีการตั้งแต่รับประทานฮอร์โมนแบบเม็ด การฉีดยาฮอร์โมน การทาครีมฮอร์โมน (ฮอร์โมนสามารถดูดซึมเข้าทางผิวหนังได้) แต่การกินหรือทาเป็นครีม มันต้องทำทุกวัน หลังๆ จึงเริ่มมีวิธีใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น ฝังแผ่นพาเลตต์เข้าไปในผิวหนังเลย แล้วให้มันค่อยๆ ปล่อยฮอร์โมนออกมาในระยะเวลา 6 เดือนก็มี วิธีนี้ในต่างประเทศเริ่มใช้กันไปสักพักแล้ว แต่บ้านเรายังไม่มีการฝังพาเลตต์ลงไปแบบนี้ครับ

     “โดยฮอร์โมนที่เวอริตาใช้ ก็จะเป็นฮอร์โมนจากธรรมชาติ เทียบได้กับฮอร์โมนของมนุษย์เลย เป็นอีกตัวหนึ่งที่เลือกใช้ในการเติมฮอร์โมนส่วนที่ขาดไป”

การจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนนั้นขึ้นมาได้อีกครั้งก็ต้องดูว่าฮอร์โมนตัวที่เราพูดถึงอวัยวะไหน ต่อมอะไรที่เป็นตัวผลิตฮอร์โมนตัวนั้นขึ้นมา แล้วต่อมๆ นั้นต้องการทรัพยากรอะไรบ้างในการที่จะซัพพอร์ตการทำงานให้กลับมาดีขึ้น

คุณธนวัฒน์ เรวัตบวรวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปของ เวอริตา เฮลท์ มหานคร

 

ไม่ใช่แค่เติม แต่ต้องสร้างฮอร์โมนขึ้นมาด้วย

     “การเติมฮอร์โมนก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง แต่เราก็มีแนวทางที่ช่วยสร้างฮอร์โมนขึ้นมาได้ โดยวิเคราะห์จากค่าตั้งต้นที่เราตรวจฮอร์โมนในตอนแรก ก็จะรู้ว่าแต่ละคนมีฮอร์โมนตัวไหนบ้างที่ขาดไป ซึ่งการจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนนั้นขึ้นมาได้อีกครั้งก็ต้องดูว่าฮอร์โมนตัวที่เราพูดถึงอวัยวะไหน ต่อมอะไรที่เป็นตัวผลิตฮอร์โมนตัวนั้นขึ้นมา แล้วต่อมๆ นั้นต้องการทรัพยากรอะไรบ้างในการที่จะซัพพอร์ตการทำงานให้กลับมาดีขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพ วิธีนี้จะอยู่ในการวางแผนเพื่อการรักษาและฟื้นฟูอย่างจริงจัง เพื่อให้ต่อมต่างๆ กลับมาทำงานได้ใหม่ พอต่อมเหล่านี้ทำงานได้เต็มที่ เราก็จะสามารถลดการใช้ฮอร์โมนแบบทดแทนลงมาได้ ซึ่งนั่นก็จะเป็นทางออกของการมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งระยะเวลาการรักษาและฟื้นฟูของแต่ละคนก็จะมีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน ใช้เวลาไม่เท่ากัน เนื่องจากเราวางแผนการรักษาตามผลการตรวจฮอร์โมนที่มีค่าไม่เหมือนกัน”

 

การใช้ฮอร์โมนมีความเสี่ยงหรือไม่

     “มีหลายคนอาจสงสัยว่า การใช้ฮอร์โมนมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง บางคนเคยได้ยินมาว่าใช้ฮอร์โมนต่อเนื่องไปนานๆ จะก่อให้เกิดมะเร็งจริงไหม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันในหลายวิธีคิด ในบางเคสมันมีคนที่เป็นมะเร็งทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็มี ประเด็นก็คือการที่เราดูแลรักษาโดยแพทย์ที่มอนิเตอร์เรื่องฮอร์โมนอยู่ตลอดเวลา ทั้งเลเวลและโดสของฮอร์โมนที่จะใช้อย่างเหมาะสม มันสามารถช่วยดูแลคนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่ได้สร้างความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเลย เพียงแต่ปัญหาต่างๆ ของไซด์เอฟเฟกต์ที่อาจจะเกิดขึ้น ก็อาจจะเกิดจากการไม่ได้ปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการตรวจระดับของฮอร์โมน แล้วมีการใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ในทางตรงกันข้าม หากคุณอยู่ในการดูแลของแพทย์ คุณย่อมจะปลอดภัยครับ”

 

 

ศาสตร์ชะลอวัยเหมาะกับใคร

     “ผมคิดว่าเหมาะกับทุกคนที่มีปัญหา แต่ปัญหาก็คือคุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณกำลังมีปัญหา ผมว่ามีเยอะนะครับ คนที่กลัว ไม่กล้าไปหาหมอ ไม่กล้าไปตรวจ เพราะไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร อย่างที่สองก็คือคนมักจะคิดว่าตัวเองโอเค ไม่ได้เป็นอะไร พอไม่ตรวจร่างกายเป็นประจำก็จะไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วระบบร่างกายของตัวเองมีปัญหาอะไรซุกซ่อนอยู่หรือไม่ ข้อเท็จจริงที่ผมอยากจะบอกก็คือ แม้เราจะกลัว แต่ถ้าเราสามารถเจอปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น การรักษาก็จะง่าย แล้วไม่ใช้เวลานาน ถ้าปล่อยปัญหาเรื้อรังนานออกไป มันก็มีความซับซ้อนมากขึ้น เสียเวลามากขึ้น ทางที่ดีลองไปปรึกษาและตรวจดูฮอร์โมนแต่เนิ่นๆ ไว้ก่อนเป็นเรื่องดี เพราะนอกจากจะได้ฟื้นฟู แก้ไข และเติมเต็มแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้นอกเหนือจากสุขภาพที่ดีแล้ว ข้างในยังจะรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา แข็งแรง และไม่แก่ไปตามอายุที่มากขึ้น”