บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Microsoft Corp. ออกมาเรียกร้องให้อภิมหาเศรษฐีทั้งหลายในสหรัฐอเมริกาจ่ายภาษีมากขึ้น พร้อมติงกฎหมายภาษีใหม่ที่ผลักดันโดยรัฐบาลรีพับลิกันว่าเอื้อประโยชน์ต่อคนรวยมากเกินไป
เกตส์ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ของ CNN ว่า เขาจ่ายเงินภาษีกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าคนอื่นๆ แต่รัฐบาลควรกำหนดให้บุคคลที่ร่ำรวยในระดับเดียวกับเขาต้องจ่ายภาษีมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วย
ปัจจุบันเกตส์เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการจัดอันดับดัชนีอภิมหาเศรษฐีของ Bloomberg ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 9.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นรองเพียง เจฟฟ์ เบโซส์ ซีอีโอของ Amazon เท่านั้น
เกตส์ยังวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า เอื้อประโยชน์ต่อองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด “มันไม่ใช่อัตราภาษีก้าวหน้าเลย แต่เป็นอัตราภาษีแบบถอยหลัง คนรวยจะได้ประโยชน์มากกว่าชนชั้นกลางหรือคนจน”
เกตส์เคยสร้างความฮือฮาด้วยการประกาศจะมอบเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเขาให้กับการกุศล โดยก่อนหน้านี้เขาได้บริจาคทรัพย์สินมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านเหรียญให้กับการกุศลแล้ว ซึ่งทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นเศรษฐีผู้ใจบุญ
สำหรับประเด็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ นั้น เกตส์ให้ความเห็นว่า “ประเทศประชาธิปไตยที่พัฒนาแล้วควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะปัจจุบันประชากรราว 1 ใน 6 ยังมีสภาพการดำรงชีวิตที่แร้นแค้น รัฐบาลจำเป็นต้องไตร่ตรองนโยบายใหม่”
นอกจากเกตส์แล้ว จอร์จ โซรอส และสตีเวน รอกกีเฟลเลอร์ ก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายภาษีของทรัมป์ โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว พวกเขาได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงสภาคองเกรสร่วมกับมหาเศรษฐีกว่า 400 คน เพื่อเรียกร้องให้รัฐสภายกเลิกการผ่านกฎหมายลดหย่อนภาษีให้กับคนรวย
อ้างอิง: