วันนี้ (23 พฤศจิกายน) พรรคภูมิใจไทย จัดประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2568 โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ เช่น คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร คณะกรรมการนโยบาย และ คณะกรรมการยุทธศาสตร์
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุม และการหารือกับหลายกลุ่มการเมือง ที่เดินทางมาเปิดตัวในวันนี้ว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงต้นปีหน้า จึงต้องเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ และวันนี้มีผู้แสดงเจตจำนงจะมาทำงานร่วมกันในทางการเมือง
อย่างจังหวัดเพชรบุรี สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะช่วยดูแลคัดสรร ผู้ที่จะ มาร่วมงานกัน โดยได้พา ชัยยะ อังกินันทน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี, ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1 และ ฤกษ์ อยู่ดี สส. เพชรบุรี เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะมาร่วมงานในทางการเมือง โดย การเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่งลงสมัคร ซึ่งมี สส.อยู่แล้ว 2 คน ซึ่งเพชรบุรีมี สส. ได้ทั้งหมด 3 คน หากได้มาทำงานร่วมกัน เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งตนจะ ลงไปแนะนำตนเองและขอโอกาสจากประชาชนในพื้นที่ในเร็ววันนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพื้นที่จังหวัดชลบุรีที่มีหลายกลุ่มตอนนี้ถือว่าลงตัวแล้วหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า สนธยา และ วิทยา คุณปลื้ม ได้เดินทางมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว
ส่วนการแบ่งพื้นที่จังหวัดชลบุรีในการ ดูแลนั้น สุชาติกล่าวเสริม ยืนยันว่าไม่ทับซ้อนกัน
อนุทิน กล่าวอีกว่า รายละเอียดของพื้นที่เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะมีคณะกรรมการสรรหาอยู่แล้ว และวันนี้อะไรที่มีความชัดเจนก็ลงมาแจ้งให้ประชาชนรับทราบโดยไม่ต้องไปหลบๆซ่อนๆ กั๊กๆอะไร เพื่อจะได้ลงพื้นที่ทำงานได้เลย เพื่อจะได้แจ้งกับประชาชนว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำงานในนามพรรคภูมิใจไทย
เมื่อผู้สื่อถามถึงความชัดเจนของวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาที่เดินทางมายังพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ อนุทินกล่าวว่า ปกติวราวุธเคยเดินทางมาที่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ยกเว้นงานวันเกิดพรรค
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่า จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย อนุทินกล่าวว่า อย่างที่บอกบางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดอะไร พูดมากคนอ่านไม่ชอบก็ได้ ส่วนการได้ มาทำงานร่วมกันได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น โดยยึดประชาชนเป็นใหญ่และเป็นหลักอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยมีความเป็นเอกภาพ แต่ขณะนี้มีหลายกลุ่มการเมืองเข้ามาร่วมงานจะสามารถคุมพรรคให้เป็นเอกภาพได้ต่อไปหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า “ไม่มีกลุ่ม มีก๊วน มีก๊วนเดียว ก๊วนหนูนี่แหละครับ ทุกคนเรียกผมพี่หมด และสุชาติก็บ้านติดกัน คุยกันทุกคืน จะไปไหนผมก็ตามถึงบ้าน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่วราวุธเลือกที่จะทิ้งพรรคชาติไทยพัฒนามาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย อนุทินกล่าวว่า ใครก็รู้ว่าตนกับวราวุธเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา สมัยที่บรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ดูแลตนเหมือนลูกหลาน และยังเคยพูดกับตนว่าไปไหนก็ให้ดูแลน้องด้วย มีอะไรก็ดูแลกัน พูดตั้งแต่ตอนท่านยังไม่สิ้นไป แล้วตอนนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีเราก็ได้มาคุยกัน ว่าการทำการเมืองจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด แยกกันทำก็อาจจะเกิดประโยชน์กับประชาชนไม่เต็มที่
เพราะประสิทธิภาพและศักยภาพของแต่ละคนมี แต่การเมืองต้องประกอบด้วยหลายอย่าง ถึงแม้จะ ทำให้ตายหากไม่มีองค์ประกอบอื่นๆ ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ วันนี้เราพยายามใช้ศักยภาพ ประสิทธิภาพ ประสบการณ์และความสามารถของแต่ละคนที่มี ที่พร้อมจะรับใช้บ้านเมืองและประชาชนอย่างเต็มที่ เราเอาตรงนี้มาเปิดโอกาสให้เขาใช้สิ่งที่มี พรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า เราให้โอกาสคนทำงาน ไม่มีการกั๊กหรือก้าวก่ายกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพื้นที่ในกรุงเทพฯจะมีการดึง สส.ที่มีชื่อเสียงเข้ามาหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า วันนี้ก็เปิดตัวใกล้ๆ กรุงเทพฯแล้ว นี่คือโอกาสในการสร้างให้กับคนทำงาน ให้ประชาชนเป็นปึกแผ่น ไม่มีเรื่องการด้อยค่า ดูถูก หรือพูดถึงคนอื่นในทางไม่ดี เราตั้งหน้าตั้งตาทำงาน และจังหวัดเพชรบุรี ผมฝันมานานแล้วว่าอยากทำงานร่วมกับนายก อบจ. คนนี้ คนที่ทำให้ฝันเป็นจริงในวันนี้คือ สุชาติ เราต้องใช้เครือข่ายและความสัมพันธ์ที่มีอยู่ แต่ต้องมาทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ใช้เครือข่ายไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่ชอบ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่เคยคิดเช่นนั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฝันต่อไปคือการได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ฝันต่อไป คือขอให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มาก นั่นคือ ความฝันอันสูงสุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกลยุทธ์ที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งหน้า อนุทินกล่าวว่า เราร่วมกันทำงานและทำงานกันอย่างเต็มที่ นโยบายอะไรที่สัญญาไว้กับประชาชนก็ทำให้เต็มที่ เมื่อประชาชน เห็นแล้วก็คงจะมั่นใจและได้รับความไว้วางใจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมใหญ่วิสามัญวันนี้มีการพูดถึงการวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือยัง อนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ต้องเป็นไปทีละขั้นตอน ยังไงก็มาแน่ ส่วนกรณีศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็เริ่มพูดคุยซึ่งวันนี้ก็มาร่วมประชุมที่พรรคภูมิใจไทย การจะเอาคนมาเป็นนายกฯเราก็ต้องคุยในรายละเอียด ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ได้มากที่สุดว่าถ้าเข้ามาแล้วจะทำงานอย่างไร เพราะตามรัฐธรรมนูญสามารถเสนอชื่อนายกได้ 3 คน สมัยก่อนพรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อตนคนเดียว แต่ช่วงหลังที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ทางการเมือง บางพรรคใช้ไป 3 คนหมดแล้ว แต่บางพรรคมีแค่คนเดียว
ดังนั้นเราต้องเติมเต็มและเตรียมความพร้อมไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการบังคับ เพียงเป็นการเตรียมความพร้อมไว้ เพื่อในอนาคตเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง จะได้มีความพร้อมในการสานต่องานให้เกิดความต่อเนื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามองพรรคการเมืองใดเป็นคู่แข่งพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้ง อนุทินกล่าวว่า ก็มองที่พวกเรา ต้องต่อสู้กับตนเอง ต้องไม่ขี้เกียจ ไม่ประมาท ไม่คิดว่าประชาชนให้ความไว้วางใจแล้วเราจะอยู่เฉยๆ ไม่สร้างความมั่นใจให้แข็งแกร่งขึ้น เราต้องเอาตัวเองวิ่งตามตัวเอง และวิ่งนำตัวเอง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการดึงองค์คาพยพมาเสริมทัพในภูมิใจไทยทำให้มั่นใจมากขึ้นหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ทิศทางของพรรค แนวนโยบายของพรรค บุคลากรของพรรค ที่เข้ามาจะทำให้เป้าหมายของเราได้บรรลุ เพราะมีแต่คนมีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ สส.พรรคเพื่อไทยบางคนมาปรากฏตัวในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่จะร่วมงานกัน อนุทินกล่าวว่า มาถึงวันนี้แล้ว และการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะเกิดขึ้นภายในเดือน 2 เดือนนี้ คงไม่มีอะไรต้องหลบๆซ่อนๆ ซึ่งไม่ดีหรอก จะเห็นได้ตั้งแต่การตั้งรัฐบาล ใครมาก็เปิดให้ประชาชนเห็นเลย ไม่ใช่แอบๆมาแล้วโผล่ชื่อในภายหลัง คนไหนคุยเรียบร้อยหมดแล้วก็เอามาเปิดเผย
“เช่นเดียวกับจังหวัดเพชรบุรีที่มีผู้สมัครชัดเจนก็นำมาเปิดตัว หลังจากนี้ผมจะให้ผู้สมัครและสุชาติพาลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ก่อนหน้านี้ไปได้แค่อำเภอชะอำ ตอนนี้จะไปได้หลายที่ทั้งอำเภอเมือง อำเภอบ้านลาด และอีกหลายที่ซึ่งตอนนี้ชื่ออำเภอยังจำได้ไม่หมด” อนุทินกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังการเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสสูงหรือไม่ที่จะร่วมงานกับพรรคประชาชน อนุทินยกมือเลี่ยงตอบพร้อมระบุว่า ขอไปปิดประชุมใหญ่วิสามัญพรรคก่อน
จากนั้นเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปหา สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งสวมเสื้อสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ สรัสนนท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ซึ่งยืนรออยู่ที่หน้าประตูพรรค จากนั้นพาทั้งสองมาเปิดตัวกับสื่อมวลชน
อนุทินไม่ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว บอกเพียงว่า “ให้ภาพเล่าเรื่อง” ก่อนจะกางแขนป้องและต้อน สส.ทั้ง 2 คนขึ้นชั้นบน และกล่าวว่า “เซฟลูกพรรคด้วย” พร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเซฟลูกพรรคจากอะไร แต่อนุทินไม่ตอบ ก่อนจะ ต้อน สส. ทั้ง 2 คน ขึ้นห้องประชุมทันที
