×

รู้จัก “BESS”: Power Bank ของระบบไฟฟ้าไทย ช่วยให้ไฟไม่ดับในยุคพลังงานใหม่ เสริมความมั่นคงระบบพลังงานไทย

โดย THE STANDARD TEAM
06.06.2025
  • LOADING...
BESS

ในอดีต พลังงานไฟฟ้าถูกผลิตจากแหล่งพลังงานที่ควบคุมได้ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติ การผลิตจึงคงที่และมั่นคง แต่เมื่อโลกกำลังเผชิญกับปัญหาภาวะโลกร้อน ประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ต่างมุ่งสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ที่ผลิตไฟฟ้าได้โดยไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 

ทว่า ความท้าทายคือ พลังงานเหล่านี้ไม่สามารถผลิตได้ตลอดเวลา เช่น กลางคืนที่ไม่มีแสงแดด หรือวันที่ลมสงบ ทำให้เกิดความไม่แน่นอน (intermittency) และเสี่ยงต่อการไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือมีความต้องการไฟสูงในบางช่วงเวลา

 

ตรงนี้เองที่ “ระบบกักเก็บพลังงาน” หรือ BESS เข้ามามีบทบาทสำคัญ

 

BESS คืออะไร และทำงานอย่างไร?

 

BESS ย่อมาจาก Battery Energy Storage System คือระบบกักเก็บไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ที่สามารถชาร์จพลังงานไฟฟ้าไว้ในช่วงที่ผลิตได้มาก แล้วปล่อยพลังงานออกมาในช่วงที่มีความต้องการใช้สูง หรือช่วงที่ไม่มีการผลิต เช่น กลางคืนหรือช่วงพีคของการใช้ไฟ

 

เปรียบเทียบง่ายๆ BESS ก็เหมือน Power Bank ยักษ์ ที่ต่อกับระบบไฟฟ้าของเมืองหรือชุมชน หากระบบหลักผลิตไฟฟ้าได้เกินความต้องการ BESS จะเก็บไว้ และเมื่อถึงเวลาที่ระบบหลักผลิตไฟฟ้าได้ไม่พอ BESS ก็จะเข้ามาเสริม

 

เทคโนโลยีที่ใช้ส่วนมากคือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งมีจุดเด่นคือ น้ำหนักเบา ชาร์จเร็ว พลังงานคงที่ และอายุการใช้งานยาวนานถึง 15 ปี

 

 

กรณีศึกษาการใช้ BESS ในไทย

 

ประเทศไทยเริ่มมีการใช้งาน BESS อย่างเป็นรูปธรรมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตที่ไฟฟ้ามักมีปัญหา เช่น พื้นที่เกาะ หรือพื้นที่ห่างไกลที่เชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าไม่สะดวก

 

หนึ่งในตัวอย่างที่ใหญ่ที่สุด คือโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ติดตั้ง BESS ขนาด 50 เมกะวัตต์ ถือเป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เริ่มใช้งานตั้งแต่กรกฎาคม 2567 เพื่อลดปัญหาไฟฟ้าดับในช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง

 

BESS

BESS การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเกาะสมุย ขนาด 50 เมกะวัตต์

 

นอกจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังมีการติดตั้ง BESS ในพื้นที่อื่น เช่น

 

  • จังหวัดลพบุรี (สถานีชัยบาดาล) ขนาด 21 เมกะวัตต์
  • จังหวัดชัยภูมิ (บำเน็จณรงค์) ขนาด 16 เมกะวัตต์
  • จังหวัดแม่ฮ่องสอน (สมาร์ตกริดนำร่อง) ขนาด 4 เมกะวัตต์

 

BESS กฟผ. ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ขนาด 21 เมกะวัตต์

 

ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมเสถียรภาพระบบไฟฟ้าร่วมกับพลังงานหมุนเวียนในไทย

 

นโยบายรัฐกับการส่งเสริม BESS

 

ภาครัฐให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด โดยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อปี 2565 มีการเห็นชอบแผนรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน หรือ RE Big Lot รวม 5,203 เมกะวัตต์

 

ในจำนวนนี้ มีโครงการที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ร่วมกับระบบ BESS ถึง 1,000 เมกะวัตต์ แสดงให้เห็นว่านโยบายของรัฐไม่ได้ส่งเสริมแค่พลังงานหมุนเวียน แต่ยังผลักดันให้มีเทคโนโลยีรองรับ เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามั่นคงและยั่งยืน

 

เป้าหมายระยะยาวของไทยคือ การเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ซึ่ง BESS คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เป้าหมายเหล่านี้เป็นจริง

 

อนาคตของพลังงานไฟฟ้า ต้องมี BESS

 

ในวันที่พลังงานสะอาดไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่กลายเป็นเป้าหมายระดับชาติ BESS จะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบพลังงานยุคใหม่

 

ยิ่งเทคโนโลยีนี้พัฒนาต่อไปจนต้นทุนถูกลง และใช้งานได้กว้างขวางมากขึ้น เราอาจได้เห็นระบบไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนแบบ 100% ได้จริง โดยไม่ต้องกังวลกับความไม่แน่นอนของแดดหรือลมอีกต่อไป

 

อนาคตของพลังงานไทยจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการผลิต แต่รวมถึง “การเก็บรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ” ด้วย BESS คือหนึ่งในคำตอบที่ชัดเจนของเส้นทางนี้องที่หลายพื้นที่ต้องเผชิญ

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising