อาณาจักร Berkshire Hathaway ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโลก เผยผลประกอบการไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 40.6% ส่วนกองเงินสดพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 1.57 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อาณาจักร Berkshire Hathaway ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนรายใหญ่ ที่ครอบครองและถือหุ้นในเครือบริษัทที่หลากหลาย รายงานผลประกอบการจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 40.6% หรืออยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สารสำคัญจาก ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ถึงนักลงทุน เตือนให้เตรียมใจรับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
- ความเชื่อมั่นส่อแววลดลง! กองทุนเฮดจ์ฟันด์ลดการซื้อสัญญาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี
- ธนาคารโลกเตือนราคาน้ำมันอาจพุ่งทะลุ 150 ดอลลาร์ หากสงครามอิสราเอล-ฮามาสยังยืดเยื้อต่อไป
ส่วนผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมาจากกลุ่มบริษัท Omaha, Nebraska-based ที่ขาดทุนจากการลงทุน 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจประกันภัย GEICO ที่สร้างรายได้ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรอยู่ที่จากการจัดจำหน่ายที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าเทียบกับการขาดทุนไป 759 ล้านดอลลาร์ เมื่อช่วงเวลาเดียวกับของปีที่ผ่านมา
ตามด้วยรายได้ธุรกิจการรถไฟและสาธารณูปโภค แต่กลับไม่ได้ทำกำไรจากการถือหุ้นใหญ่ของ Apple ผู้ผลิต iPhone ส่งสัญญาณขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบัน Berkshire Hathaway ถือหุ้น Apple อยู่ที่ 1.7 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้อัตราการซื้อหุ้นคืน (Shares Repurchase) ของบริษัทก็มีการชะลอตัวลง โดยในไตรมาสนี้บริษัทใช้เงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้นคืน ซึ่งถ้าเทียบกับต้นปี บริษัทมีการซื้อหุ้นคืนไปแล้วถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่กองเงินสดพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งถ้าเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีเงินอยู่ในมือแค่ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ โดย วอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ด้วยการซื้อตั๋วเงินคลังระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนอย่างน้อย 5%
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Berkshire Hathaway ให้ความสำคัญคือระมัดระวังในการลงทุน ท่ามกลางความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังการจับจ่าย รวมถึงแรงกดดันของเงินเฟ้อและภาวะดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ถึงกระนั้นนักลงทุนได้จับตาดู Berkshire Hathaway อย่างใกล้ชิดเพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และด้วยชื่อเสียงของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ วัย 93 ปี ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโลก จะช่วยสะท้อนถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจโดยรวมได้
โดยที่ผ่านมานักลงทุนหลายคนต่างยกย่องว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ มีความระมัดระวังในการใช้เงินสดอย่างมาก และพร้อมรอดูความเคลื่อนไหวว่าเขาจะมีการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่หรือไม่
อ้างอิง:
