Berkshire Hathaway Inc. อาณาจักรการลงทุนของตำนานนักลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2025 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Earnings) ลดลงประมาณ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 9.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินสดของบริษัทพุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์ถึง 3.477 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 12.8 ล้านล้านบาท ท่ามกลางความยากลำบากในการตัดสินใจนำเงินไปลงทุน เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าโลกและกำแพงภาษี
ในแถลงการณ์ผลประกอบการที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม Berkshire Hathaway ระบุว่า “ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับผลลัพธ์สุดท้ายของเหตุการณ์เหล่านี้” โดยอ้างถึงนโยบายการค้าระหว่างประเทศและมาตรการกำแพงภาษีที่กำลังดำเนินอยู่
ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่เมืองโอมาฮาเมื่อวันเสาร์ บัฟเฟตต์ได้กล่าวถึงประเด็นภาษีโดยตรงมากขึ้น โดยมีมุมมองที่น่าสนใจว่า “ผมคิดว่าคุณสามารถให้เหตุผลที่ดีมากๆ ว่าการค้าที่สมดุลนั้นดีต่อโลก” แต่ในขณะเดียวกันก็เตือนว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการค้าสามารถเป็นการแสดงออกของสงครามได้” พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า สหรัฐฯ “ควรจะมองหาการค้ากับส่วนอื่นๆ ของโลก”
สัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว? – งดซื้อหุ้นคืน 3 ไตรมาสติด
รายงานระบุว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ภายใต้อาณาจักร Berkshire มีรายได้และกำไรลดลงในไตรมาสแรก ซึ่ง แคธี ไซเฟิร์ต นักวิเคราะห์จาก CFRA Research มองว่าอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมกำลังชะลอตัวลง “สิ่งที่เราเห็นคือผลกระทบต่อ Berkshire จากเศรษฐกิจในวงกว้างซึ่งกำลังชะลอตัว” ไซเฟิร์ตกล่าว
นอกจากนี้ Berkshire Hathaway ยัง ไม่ได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืน (Share Repurchase) เป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน ซึ่งไซเฟิร์ตให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อาจเป็นสัญญาณว่าราคาหุ้นของ Berkshire ในปัจจุบัน “มีมูลค่าสูงเกินไปในมุมมองของ Berkshire”
พอร์ตลงทุน-ธุรกิจประกัน
- ณ สิ้นเดือนมีนาคม หุ้น 5 อันดับแรกที่ Berkshire ถือครองในสัดส่วนมากที่สุดยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ American Express Co., Apple Inc., Bank of America Corp., Coca-Cola Co. และ Chevron Corp.
- อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรก บริษัทเป็นผู้ขายสุทธิ ในตลาดหุ้น โดยขายหุ้นออกไปมากกว่าซื้อเข้า คิดเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
- รายได้จากการลงทุน (Investment Income) ของกลุ่มธุรกิจประกันภัย เพิ่มขึ้น 11% เป็น 2.9 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนหลักจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นถึง 31% จากการที่บริษัทถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Treasury Bills) มากขึ้นในภาวะดอกเบี้ยสูง
- Geico ซึ่งเป็นธุรกิจประกันภัยรถยนต์ มีกำไรเพิ่มขึ้นจากการได้ลูกค้าใหม่ แต่ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกันจากการพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
- กำไรจากการรับประกันภัย (Underwriting Earnings) โดยรวมของกลุ่มธุรกิจประกัน ลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในไตรมาสนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลขาดทุนหลังหักภาษีราว 860 ล้านดอลลาร์ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
มูลค่าตลาดของ Berkshire Hathaway ยังคงยืนอยู่เหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม โดยมีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (Price-to-Book Ratio) อยู่ที่ 1.79 เท่า ณ ราคาปิดตลาดวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา
อ้างอิง: